ตรัง - แม่ของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย และเป็นภรรยาของหนึ่งในผู้ต้องหา ยังไม่เชื่อว่าพ่อจะข่มขืนลูกตนเอง เพราะจากหลักฐานที่ตำรวจนำมาให้ดูมีเพียงแค่เสื้อผ้าเท่านั้น พร้อมรอผลดีเอ็นเอพิสูจน์ความจริง
จากกรณีที่ น้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารยาบ้า จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนแล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง ทำให้หนูน้อยมีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่ รพ.ตรัง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหามาแล้ว 2 คน โดยคนแรก คือ นายศรัณย์รัชต์ หรือเฟิร์ส อายุ 20 ปี หนุ่มใกล้บ้าน และนายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ทองย้อย อายุ 33 ปี ผู้เป็นพ่อนั้น
วันนี้ (4 มิ.ย.) นางศลิษา ซึ่งผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย และเป็นภรรยาของ นายบ่าว หนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวหลังจากทราบการแถลงข่าวล่าสุดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ระบุว่า ตอนนี้มีหลักฐานมัดตัว นายบ่าว แน่นหนาถึง 80% แล้วว่า เป็นพ่อที่ข่มขืนลูกนั้น ตนเคยเห็นสำนวน และหลักฐานทั้งหมดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำมาให้ดู
โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่มีคราบอสุจิ ซึ่งอาจเป็นของตนกับสามีก็ได้เพราะนอนเตียงเดียวกัน นอกเสียจากจะมีการพบคราบอสุจิของสามีในช่องคลอดของลูกสาว ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นตนก็คงยอมรับ แต่ถ้าจู่ๆ มีการออกมาระบุว่า พ่อเป็นคนทำคนเดียว ตนก็ยังไม่เชื่อ เพราะสิ่งที่ตนเห็นกับตาวันที่ลูกสาวเสียชีวิตไม่ได้เป็นแบบนั้น และคดีนี้ต้องมีคนร่วมด้วยอย่างแน่นอน
ส่วนผลการตรวจหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ออกมาแล้ว 80% นางศลิษา คิดว่า ก็ยังต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเก็บหลักฐานเฉพาะในห้องนอน แล้วถ้าจะมาสรุปคดีตนคิดว่ายังไม่เพียงพอ เพราะส่วนตัวยังเชื่อคำบอกของลูกสาวที่ว่า นายเฟิร์ส ผู้ต้องหาคนแรกเป็นคนทำ เพราะก่อนหน้าจะเกิดเหตุก็มีพิรุธ และมาสอบถามว่า ใครนอนที่บ้านตรงไหน ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ทั้งนี้ คงต้องรอผลดีเอ็นเอเท่านั้นเพื่อจะยืนยันได้ว่า พ่อข่มขืนลูกจริงหรือไม่ แต่ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกับสามี ตนไม่เคยพบว่า เขามีความรุนแรงทางเพศ และจากการไปเยี่ยมที่เรือนจำตรังล่าสุด ก็พบว่า มีสภาพจิตใจ และร่างกายปกติดี อย่างไรก็ตาม หากถึงที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจสรุปไปโดยหลักฐานไม่ชัดเจนก็ต้องสู้กันในชั้นศาลต่อไป
สำหรับครอบครัวของ นายเฟิร์ส ผู้ต้องหาคนแรก ซึ่งยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำตรังนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามไปยัง นายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ซึ่งเป็นพ่อ แต่ไม่สะดวกที่จะพูดคุยถึงกรณีนี้