ตรัง - ตำรวจตรัง แถลงเผยคดีข่มขืนฆ่าเด็กหญิง 8 ขวบ มีหลักฐานมัดตัว 2 ผู้ต้องหาแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลืออีกเพียงเล็กน้อย รวมทั้งผลดีเอ็นเอ เชื่อสรุปสำนวนทันส่งฟ้องศาลในปลายเดือน ก.ค.นี้แน่นอน
จากกรณีที่ น้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารยาบ้า จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนแล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง ทำให้หนูน้อยมีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่ รพ.ตรัง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหามาแล้ว 2 คน โดยคนแรก คือ นายศรัณย์รัชต์ หรือเฟิร์ส อายุ 20 ปี หนุ่มใกล้บ้าน และนายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ทองย้อย อายุ 33 ปี ผู้เป็นพ่อนั้น
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม ภ.จว.ตรัง พล.ต.ต.วรภัทร์ วัฒนดิศาล รอง ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท.สรวุธ จงจิต รอง ผกก.หน.พฐ.จว.ตรัง และ พญ.จิราวรรณ วรพงษ์ ผอ.รพ.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีฆ่าข่มขืนดังกล่าว โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากให้ความสนใจ
พล.ต.ต.วรภัทร์ วัฒนดิศาล รอง ผบช.ภ.9 กล่าวว่า สำหรับการแถลงข่าวในครั้งนี้ เนื่องจากมีความคืบหน้าของคดี โดยเฉพาะจากการตรวจพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งล่าสุด ผลได้ทยอยออกมาแล้วประมาณ 80% ทำให้พนักงานสอบสวนสามารถชี้ชัดได้ว่า นายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ผู้เป็นพ่อของเด็กมีส่วนเกี่ยวข้องต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน และยังต้องรอหลักฐานอีกแค่ 20% ก็จะสามารถระบุได้ว่า ใครคือผู้กระทำความผิด รวมถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด เนื่องจากการตรวจพิสูจน์ต้องใช้เวลาเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม
ด้าน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า สำหรับคดีนี้สามารถแบ่งแยกการกระทำความผิดออกได้ 2 ส่วน คือ ส่วนแรก กรณีของการให้ น้องเก๋ กินยาบ้าเกินขนาดจนเสียชีวิตตามที่แพทย์ รพ.ตรัง ระบุ และส่วนหลัง คือ กรณีของการข่มขืนกระทำชำเรา ทั้งนี้ จากแนวทางการสอบสวนจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า คนร้ายผสมเครื่องดื่มชนิดใดให้เด็กกินมากกว่า 1,000 นาโนกรัม ซึ่งไม่ควรมีในร่างกายจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนจะเร่งสรุปสำนวนทั้งหมดเพื่อส่งศาลให้พิจารณาภายในวันที่ 24 ก.ค.นี้ ซึ่งก่อนถึงวันนั้น ยืนยันว่า ทางตำรวจจะสามารถระบุตัวผู้กระทำความผิดที่ชัดเจนได้อย่างแน่นอน ส่วนสาเหตุที่ยังไม่สามารถระบุชัดเจนได้ในขณะนี้ก็เพื่อต้องหารให้ความเป็นธรรมต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้ด้วย สำหรับคดีนี้มีการส่งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งในเครือญาติ และผู้ต้องสงสัยไปทำการตรวจดีเอ็นเอที่ รพ.สงขลานครินทร์ รวมทั้งหมด 7 คน และคาดว่าผลจะออกมาในเร็วๆ นี้