ตรัง - หนุ่มวัย 33 ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนบุตรสาววัย 8 ขวบของตนเองเกิดความเครียดใช้เชือกผูกคอในห้องขัง สภ.เมืองตรัง แต่รอดตายหวุดหวิด ขณะที่ตำรวจต้องเฝ้าระวังที่ รพ.ตรัง เพราะมีชาวบ้านไปดูเหตุการณ์จำนวนมาก
วันนี้ (24 พ.ค.) จากกรณีที่ น้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนในช่วงดึกขณะที่พ่อแม่ออกไปกรีดยาง แล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง ทำให้หนูน้อยมีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันจนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลตรังนั้น
ล่าสุด ร.ต.ท.เอกลักษณ์ ศักดิ์ชัยนันท์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจาก จ.ส.ต.วีระศักดิ์ หนู่พุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวร สภ.เมืองตรัง ว่า มีผู้ต้องหาในห้องขังใช้เชือกผูกคอตัวเองกับห้องขัง จากนั้นได้รีบเข้าไปช่วย และรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานไปยังเจ้าหน้าที่ศูนย์นเรนทร เพื่อรีบช่วยชีวิต และนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์ตรัง
สำหรับผู้ต้องขังที่พยายามฆ่าตัวตายทราบชื่อ คือ นายกิตติศักดิ์ ทองย้อย หรือบ่าว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 ม.4 ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเพิ่งตกเป็นผู้ต้องหาของ สภ.หนองตรุด ตามหมายจับของศาลที่ จ.229/2559 ลงวันที่ 23 พ.ค.2559 ในคดีข่มขืนฆ่าบุตรสาวของตนเอง ตามข้อกล่าวหาว่า “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาของตนโดยเด็กไม่ยินยอม โดยใช้กำลังประทุษร้าย เป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต” ซึ่งก่อนหน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายกิตติศักดิ์ มาสอบสวนเพิ่มที่กองกำกับการสืบสวนภูธร จ.ตรัง ก่อนนำตัวมาฝากขังไว้ที่ สภ.เมืองตรัง และผู้ต้องหาเกิดความเครียดพยายามฆ่าตัวตายในเวลาต่อมา
สำหรับคดีนี้ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องหามาแล้ว 1 คน และกำลังอยู่ในความควบคุมของพนักงานสอบสวน คือ นายศรัณย์รัชต์ ซู่สั้น อายุ 20 ปี หนุ่มใกล้บ้านเด็กหญิงเคราะห์ร้าย ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 56 ม.4 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง หลังจากนั้น ได้เชิญผู้ต้องสงสัยอีก 7 คน มาตรวจดีเอ็นเอ รวมทั้งผู้เป็นพ่อของเด็กหญิงเคราะห์ร้าย ก่อนที่ต่อมา ผู้เป็นพ่อจะเป็นตกเป็นผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แพทย์ และพยาบาลห้องฉุกเฉิน รพ.ตรัง ได้ช่วยเหลือ นายกิตติศักดิ์ จนมีอาการปลอดภัยแล้ว และจะย้ายไปรักษายังห้องผู้ป่วย ปรากฏว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เนื่องจากมีประชาชนจำนวนมากมารอดูเหตุการณ์ที่หน้า รพ.ตรัง จนเกรงจะเกิดปัญหาขึ้นได้ จึงได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง เข้ารักษาความปลอดภัยกว่า 30 นาย และยุติการเคลื่อนย้าย นายกิตติศักดิ์ ออกจากห้องฉุกเฉินไปก่อน