ยะลา - ความคืบหน้าคดีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ร่วมก่อเหตุข่มขืนสาววัย 25 ที่ จ.ยะลา ล่าสุด สถานพินิจฯ ยะลา รับตัวเยาวชนทั้งหมดไว้ในความดูแลตามคำสั่งศาล ขณะที่ ผอ.สถานพินิจฯ เผยปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เยาวชนกระทำความผิดมากขึ้น
วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคดีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนไม่ต่ำกว่า 10 คน ร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์ และรุมกระทำชำเราทำร้ายร่างกายหญิงวัยอายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านขายของในตัวเมืองยะลา เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.ของวันที่ 26 พ.ค.59 ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองยะลา สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ลงมือก่อเหตุดังกล่าวไว้ได้ทั้งหมด จำนวน 6 ราย โดยเป็นการติดตามจับกุมตัวจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในปั๊มน้ำมันใกล้ที่เกิดเหตุ
ซึ่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งตัวเยาวชนที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุทั้งหมด หลังจากที่ผู้เสียหายได้ชี้ตัวแล้วได้ดำเนินการตามกฎหมาย โดยศาลจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่ง ตามคำสั่งแจ้งของศาลจังหวัดยะลา ที่ ตจ.63/2559 และ ตจ.64/2559 ให้ส่งตัวเยาวชนในคดีทั้งหมด จำนวน 6 ราย ฝากควบคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดยะลา ในระยะเวลา 30 วัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการคัดค้านการประกันตัวแต่อย่างใด
โดยทาง นายบุญถิ่น พุทธสุภะ ผู้อำนวยการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จ.ยะลา เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของศาลในการรับตัวเยาวชนทั้งหมด จำนวน 6 ราย ซึ่งอายุต่ำสุดเพียง 15 ปี ไว้ในการดูแล และทำตามขั้นตอนของสถานพินิจฯ ในการดูแล อบรม และส่งนักส่งเสริมสุขภาพจิต เข้าไปดูแลเยาวชนในคดีดังกล่าวแล้วตามขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งรอให้ครบตามกำหนดฝากควบคุมตัวของศาล จำนวน 30 วัน หลังจากนั้นก็จะส่งตัวต่อไปยังสถานพินิจฯ จังหวัดปัตตานี เพื่อทำการดูแลต่อไป
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสถานพินิจฯ จ.ยะลา เปิดเผยว่า ในขั้นต้นจากการตรวจสอบสุขภาพร่างกาย ของเยาวชนทั้งหมด จำนวน 6 ราย พบสารเสพติด ฉี่เป็นสีม่วงเพียง 1 รายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ปัญหายาเสพติดในกลุ่มวัยรุ่นเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายฝ่ายต้องช่วยกันสอดส่องดูแล โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว ผู้ปกครองต้องดูแลเยาวชน บุตรหลานอย่างใกล้ชิดไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเมื่อเยาวชนไปใช้สารเสพติดแล้วก็จะเข้าสู่สังคมที่ถูกเพื่อนชักชวนกันไปกระทำในสิ่งที่ไม่ดี
โดยที่ผ่านมา เยาวชนที่ถูกส่งตัวดำเนินคดีเข้าสู่สถานพินิจฯ พบว่า มีคดีเกี่ยวข้องต่อยาเสพติดมาเป็นอันดับต้นๆ และเพิ่มขึ้นทุกวัน นอกจากนี้ ปัญหาครอบครัวแตกแยกก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เด็กๆ และเยาวชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองค่อยแนะนำให้ใส่ใจในตัวของบุตรหลาน จึงอยากจะฝากให้ผู้ปกครอง และสถานบันครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันหลักค่อยดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยปละละเลยให้ออกเที่ยวเตร่ในยามค่ำคืน หรือยามวิกาล อันจะนำไปสู่การก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมตามมาในภายหลัง