ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตำรวจสงขลา จับผู้ต้องหาฆ่าหัวหน้าที่ดิน และภรรยา 2 ศพ ได้แล้ว 3 คน เป็นฝีมือคนงานในสวนปาล์มที่ปล้นฆ่าเพื่อชิงทรัพย์จากความแค้นที่ถูกหักเงินค่าแรง ส่วนตัวการใหญ่ที่วางแผนยังหลบหนี
วันนี้ (22 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีฆ่า นายกฤษณ์ สราญเศรษฐ์ อายุ 63 ปี อดีตหัวหน้าสำนักงานที่ดินอำเภอคลองหอยโข่ง จ.สงขลา และนางสุทินา หนูคง อายุ 45 ปีภรรยา ซึ่งถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนเอ็ม 16 และ .38 พร้อมกัน 2 ศพ ภายในบ้านพักซึ่งตั้งอยู่ในสวนปาล์มพื้นที่บ้านทุ่งเลียบ หมู่ 1 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด ตำรวจสงขลา นำโดย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติ ชัยชมภู ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.ดุสิต พรหมสิน รอง ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา และ พ.ต.อ.พิทักษ์ พุทธวิโร ผกก.สภ.ทุ่งตำเสา สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายสุทธิพงศ์ หรือจา จตุธรรม อายุ 29 ปี นายนรินทร์ หรือเดียร์ หลงแก้ว อายุ 29 ปี ชาว อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และนายยศพล หรือโจ๊ก พรหมอ่อน อายุ 27 ปี ซึ่งถูกจับกุมในคดียาเสพติด และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ จ.สงขลา หลังจากที่ได้พยายามสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่องมา 28 วัน พร้อมยึดของกลางรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นดรีม 110 ไอ ซูเปอร์คัพ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 1 กค 6500 สงขลา โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย 2 เครื่อง และใบขายฝากโทรศัพท์มือถือ 1 แผ่น
และทาง พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมกำลังตำรวจได้ควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหา คือ นายสุทธิพงศ์ (เสื้อแดง) และนายนรินทร์ ไปแถลงข่าวที่บ้านเกิดเหตุ พร้อมกับทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วยสวาทแอดวานซ์ ของตำรวจภูธรภาค 9 และตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา กว่า 30 นาย ตรึงกำลังโดยรอบจุดเกิดเหตุ เนื่องจากมีทั้งญาติของผู้เสียชีวิต และชาวบ้านมาเฝ้าดูตัวผู้ต้องหาด้วย โดยตลอดการทำแผนเกือบ 1 ชั่วโมงผ่านพ้นได้ด้วยดี ไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น
พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า มูลเหตุของคดีนี้เป็นการปล้นทรัพย์แล้วฆ่าปิดปาก มีผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 4 คน จับกุมได้แล้ว 3 คน ส่วนผู้บางการ และวางแผนคือ นายสมภพ หรือแข้ง จิตรนุ่ม อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นคนงานในสวนปาล์มของผู้ตายซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการหลบหนี และเคยต้องคดีพยายามฆ่าผู้อื่นในท้องที่ สภ.รัตภูมิ ติดตัว โดยใช้อาวุธปืน เอ็ม 16 ยิงใส่บ้านผู้อื่นเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับสาเหตุนั้นเนื่องจาก นายสมภพ ซึ่งเป็นคนงานในสวนปาล์มของผู้ตายโกรธที่ถูกหักเงินค่าแรงเพราะหยุดงาน จึงได้ชักชวน นายยศพล คนงานอีกคน รวมทั้ง นายสุทธิพงศ์ และนายนรินทร์ ที่รู้จักกันวางแผนปล้น และใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และปืนพกสั้นขนาด .38 ฆ่าปิดปากทั้ง 2 คนเพราะจำหน้าได้
โดย นายสุทธิพงศ์ เป็นคนใช้ปืนเอ็ม 16 ยิง นายกฤษณ์ และนายสมภพ เป็นคนใช้ปืน .38 ยิง นายสุทินา และนายนรินทร์ เป็นค้นรื้อค้นทรัพย์สินได้เงินสดไป จำนวน 19,000 บาท และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง และแยกย้ายกันหลบหนี โดยได้สมภพ ได้นำเงินที่ได้จากการปล้น จำนวน 19,000 บาท แบ่งให้ นายสุทธิพงศ์ และนายนรินทร์ คนละ 5,000 บาท ส่วนนายนรินทร์ ได้นำโทรศัพท์มือถือของ นายกฤษ ผู้ตายไปขายให้แก่เพื่อนในราคา 700 บาท และนายสุทธิพงศ์ ได้ให้หลานนำโทรศัพท์มือถือของ น.ส.สุทิน ผู้ตายไปขายที่่ร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่งบริเวณสี่แยกคูหา อ.รัตภูมิ ได้เงิน 3,000 บาท
โดยหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่สามารถคลี่คลายคดีนี้ได้คือ หลักฐานการซื้อขายโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ถูกนำไปขายนั่นเอง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะฯ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันสมควร
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กราบขอขมาผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ผ่านภาพในแผนชาร์ตด้วย ก่อนที่จะนำตัวไปควบคุมที่ สภ.ทุ่งตำเสา ต่อไป