ตรัง - หนุ่มใกล้บ้านเด็กหญิง 8 ขวบ ผู้ต้องหารายแรกยังวืดได้ประกันตัว และต้องรอยื่นอุทธรณ์ใหม่อีกครั้งในอีก 3 วันข้างหน้า ด้านผู้การมั่นใจจับไม่ผิดตัวทั้ง 2 คน เพราะมีคณะทำงานรอบคอบ รวมทั้งมีพยานหลักฐานแน่น ชัดเจน
จากกรณีที่ น้องเก๋ (นามสมมติ) เด็กหญิงวัย 8 ขวบ ชาว ต.หนองตรุด อ.เมือง จ.ตรัง ได้ถูกคนร้ายหลอกให้กินน้ำอัดลมผสมสารยาบ้า จนทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนแอบย่องเข้าไปภายในห้องนอนแล้วล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง ทำให้หนูน้อยมีเลือดออกในช่องท้อง และเกิดหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน จนเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลตรัง กระทั่งล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหามาแล้ว 2 คน โดยคนแรก คือ นายศรัณย์รัชต์ หรือเฟิร์ส อายุ 20 ปี หนุ่มใกล้บ้าน และนายกิตติศักดิ์ หรือบ่าว ทองย้อย อายุ 33 ปีผู้เป็นพ่อ นั้น
วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายว่า สำหรับ นายกิตติศักดิ์ ทองย้อย หรือบ่าว อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนบุตรสาววัย 8 ขวบ จนเสียชีวิต หลังจากถูกนำตัวไปฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดตรัง แล้วได้นำตัวไปคุมขังต่อที่เรือนจำจังหวัดตรัง โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะผู้ต้องหายังคงมีความเครียด โดยมีญาติพี่น้องบางส่วนเดินทางไปเยี่ยมเพื่อให้กำลังใจ และสอบถามความเป็นอยู่ ซึ่งจนถึงขณะนี้ นายบ่าว ยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตนเอง และระบุว่า ถูกกดดันในชั้นจับกุมจึงยอมรับสารภาพในตอนนั้น
ด้าน นายรชต ซู่สั้น ผู้เป็นพ่อของ นายศรัณย์รัชต์ หรือเฟิร์ส อายุ 20 ปี หนุ่มใกล้บ้านเด็กหญิงเคราะห์ร้าย ซึ่งถูกจับ และตกเป็นผู้ต้องหาคนแรก ให้สัมภาษณ์ว่า ล่าสุด หลังจากบุตรชายครบฝากขังในผลัดแรก ตนได้ให้ทนายความยื่นขอประกันตัว แต่ศาลพิจารณาแล้วไม่อนุญาต โดยระบุเหตุผล 3 ข้อคือ 1.เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี 2.เป็นคดีอุกฉกรรจ์ และ 3.มีคำให้การของน้องเก๋ ก่อนเสียชีวิตที่บอกว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้กระทำ ทำให้บุตรชายของตนต้องถูกคุมขังต่อเป็นผลัดสอง ที่เรือนจำจังหวัดตรัง
อย่างไรก็ตาม ตนได้ให้ทนายความไปรวบรวมสำนวนต่างๆ มาใหม่ เพื่อยื่นอุทธรณ์ขอประกันตัวบุตรชายออกมาอีกครั้งในอีก 3 วันข้างหน้า ซึ่งคาดว่า ศาลน่าจะพิจารณาอนุญาต เพราะผลจากการดำเนินคดีไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า บุตรชายของตนมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นเพียงถูกเชิญตัวมาสอบสวนเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดในหมู่บ้าน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวในเวลาต่อมา ส่วนสภาพจิตใจของลูกชาย ล่าสุด จากการเข้าไปเยี่ยมในเรือนจำจังหวัดตรัง ปรากฏว่า ดีขึ้นมาก หลังจากมีการจับพ่อของน้องเก๋ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกคนไปแล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า เป็นสิทธิของทั้ง นายเฟิร์ส และ นายบ่าว ที่จะยืนยันว่า ตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ หรือกลับคำให้การ แต่การดำเนินการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ผ่านมา มีการทำงานถึง 3 ชุด ซึ่งหากชุดไหนได้ข้อมูล พยาน หรือหลักฐานอะไรก็จะนำมาประชุมสรุป โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน แล้วนำไปสู่การขอออกหมายจับต่อศาล อีกทั้งการทำงานก็มีหลายภาคส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น แพทย์ พิสูจน์หลักฐาน จึงถือได้ว่ามีความรอบคอบอย่างมาก
ทั้งนี้ แม้จะมีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 2 คน แต่กระบวนการทำงานก็ยังไม่จบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกชุดยังคงลงพื้นที่หาข้อมูล พยาน หลักฐาน แล้วนำมาประมวลผลทุกวัน โดยจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามอำนาจฝากขัง 84 วัน และให้มั่นใจว่า ทุกอย่างจะแน่นหนามากที่สุด ส่วนจะมีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่คงขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่จะสาวไปถึง แต่ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานให้ดีที่สุด รวมทั้งเห็นใจทุกฝ่าย โดยเฉพาะครอบครัวของเด็ก ผู้ต้องหา และผู้ต้องสงสัย เนื่องจากคดีอยู่ในความสนใจของสังคม
สำหรับผลการตรวจดีเอ็นเอ และตรวจร่างกาย ทั้งในส่วนของผู้ตาย ผู้ต้องหา และผู้ต้องสงสัย ตนได้พยายามประสานงานไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อย่างต่อเนื่อง โดยขอลดเวลาทำงานจาก 30 วัน ให้เหลือแค่ 15 วัน ซึ่งน่าจะทราบผลภายในสัปดาห์นี้ แต่เนื่องจากเป็นคดีสำคัญ ทางแพทย์จึงต้องใช้เวลาดำเนินการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเองคงไปก้าวล่วงอะไรไม่ได้ ส่วนผลที่ออกมาจะเป็นตัวสรุปปิดคดีหรือไม่ ยังไม่อาจตอบได้ เพราะต้องนำมาประมวลเข้ากับพยานหลักฐานอื่นๆ อีก แต่เชื่อว่าจะได้เห็นความชัดเจนของคดีมากขึ้นแน่นอน