เกษตรกรสตูลปลูก “เมล่อน” วาดลวดลายเฉพาะถิ่น ประสบความสำเร็จรายได้งาม

 
สตูล - เกษตรกรชาวสตูล ปลูกเมล่อนพันธุ์ญี่ปุ่น พร้อมวาดลวดลายเฉพาะถิ่นลงบนผลจนประสบความสำเร็จ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ อบต.ทุ่งหว้า หนุนส่งเสริมการตลาดให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชไร้ดินของ นางลาวัลย์ หล่อสุพรรณพร อายุ 68 ปี และนายชยพัทธ์ หล่อสุพรรณพร อายุ 47 ปี หมู่ 4 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล มีการปลูกเมล่อนพันธุ์ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพืชตระกูลล้มลุก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ และยังเปิดเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชไร้ดิน “ฉิม” บนพื้นที่ 2 ไร่ ให้นักท่องเที่ยว นักศึกษา บุคคลทั่วไปได้มาเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมีการทดลองปลูกสายพันธุ์อื่นๆ อย่างเช่น เมล่อนสายพันธุ์ทิเบต ผักสลัด ผักคะน้า ผักโขม และผักอื่นๆ โดยได้รับการส่งเสริมจากหลากหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ นายณรงค์ฤทธิ์ ทุ่งปรือ นายก อบต.ทุ่งหว้า กระตุ้นส่งเสริมการตลาดให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
 

 
นายชยพัทธ์ หล่อสุพรรณพร กล่าวว่า หลังเรียนจบก็ทำงานที่กรุงเทพฯ โดยทำธุรกิจด้านการเกษตรนาน 20 ปี ก่อนตัดสินใจกลับมาดูแลครอบครัว ดูแลสวนยางพาราที่บ้านเกิด ปกติการทำสวนยางพาราจะเสร็จสิ้นในช่วงเช้า และยังมีเวลาเหลือ จึงเรียนรู้ที่จะปลูกเมล่อน ซึ่งเป็นผลไม้ที่ชอบรับประทาน ก่อนลงมืออย่างจริงจัง ใส่ใจเรียนรู้วิธีการ และผลกระทบต่างๆ ไปขึ้นทะเบียนเกษตรกร และได้รับการรับรองมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (GAP พืช) พ.ศ.2555 กระทั่งวันนี้ ได้รับผลตอบรับที่ดี ปลูกไม่พอต่อความต้องการของตลาด

สำหรับความพิเศษของเมล่อน ที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชไร้ดิน “ฉิม” คือ ผลเมล่อนจะให้ความหอม กรอบ โดยควบคุมความหวานในแต่ละลูกอยู่ที่ 13-15 บริก ซึ่งถือว่าหวานทีเดียว นอกจากนี้ ยังมีจุดขายโดยการวาดลายผลเมล่อน โดยจะวาดลายได้หลังจากผสมดอก 10-15 วัน หรือผลเมล่อนจะมีขนาดเท่ากำมือ เป็นการวาดลวดลายเฉพาะถิ่น และกรณีมีลูกค้าสั่งเป็นพิเศษ เช่น ให้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ อย่างล่าสุด ก็มีลูกค้าสั่งให้วาดลายพระสมุทรเทวา สัญลักษณ์ประจำจังหวัด เพื่อมอบให้แก่นายกฯ อบจ.สตูล ในโอกาสสำคัญ นอกจากนี้ ยังมีวาดลาย สัญลักษณ์ฟอสซิล ช้างดึกดำบรรพ์ เพื่อสร้างจุดขายเชื่อมโยงต่อการท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของฟอสซิล ในอุทยานธรณีสตูล แต่การวาดเส้นนี้หากวาดลึกมากก็จะทำให้ผลเมล่อนเสีย ซึ่งถือเป็นความเสี่ยง
 

 
นางลาวัลย์ หล่อสุพรรณพร กล่าวว่า ปกติจะดูแลพืชเมล่อนที่ปลูกไว้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกกระทั่งเก็บเกี่ยวผล สำหรับเมล่อนนี้จะปลูกภายในเต็นท์ที่มีแสงสว่างเข้าถึง เพราะเมล่อนจะชอบแดด และจะให้น้ำวันละ 5 ครั้ง เป็นระบบน้ำหยด และต้องใช้ตาข่ายขนาดเล็กมากเพื่อป้องกันเพลี้ยไฟ และแมลงหวี่ขาว ซึ่งจะดูดน้ำเลี้ยงทำให้ยอดหยิกงอ ผลก็จะไม่สมบูรณ์ ส่วนรอบของการให้ผลจะใช้เวลา 30 วัน โดยจะเลี้ยงต้น 1 เดือน เลี้ยงลูกอีก 2 เดือน

ในช่วงเดือนแรกจะมีการผสมดอก โดยการนำเกสรตัวผู้มาผสมกับเกสรตัวเมีย จากนั้นก็จะคอยดูการเติบโต สำหรับราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท หากจะส่งไปรษณีย์ระบบ EMS จะขายในราคากิโลกรัมละ 250 บาท จะบวกเพิ่มอีก 50 บาท ในกรณีมีการสั่งวาดลาย สำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยว ชาวบ้านในพื้นที่ และลูกค้าผ่านโซเชียล Line, Face book