ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จังหวัดขอนแก่นผนึกกรมทรัพยากรธรณีเตรียมจัดงานมหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ขอนแก่นปีที่ 3 ตอน “อุทยานธรณีขอนแก่น ดินแดนไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์” ระหว่างวันที่ 19-24 เม.ย.นี้ ที่ห้างเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น มุ่งผลักดันขอนแก่นก้าวสู่การเป็นอุทยานธรณีระดับประเทศและระดับโลก
วันนี้ (6 เม.ย. 59) ที่ลานขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ห้างเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายสมหมาย เตชวาล รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจัดงานมหัศจรรย์ไดโนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น ประจำปี 2559 ซึ่งเป็นการจัดต่อเนื่องครั้งที่ 3 ตอน “อุทยานธรณีขอนแก่น ดินแดนไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์” โดยมีสื่อมวลชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมในกิจกรรม
นายกำธร ถาวรสถิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จังหวัดขอนแก่นมีการขุดค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ อ.ภูเวียง เมื่อปี พ.ศ. 2519 ค้นพบไดโนเสาร์สกุลและชนิดใหม่ของโลก คือ ไดโนเสาร์ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน (Phuwiangosaurus sirindhornae) โดยใช้ชื่อภูเวียงเป็นชื่อสกุลและใช้นามาภิไธยของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นชื่อชนิด โดยถวายพระเกียรติแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือได้ว่า จ.ขอนแก่นเป็นดินแดนดึกดำบรรพ์ของไดโนเสาร์
จังหวัดขอนแก่นจึงให้ความสำคัญในการใช้ไดโนเสาร์เป็นคำขวัญของจังหวัดขอนแก่น และเป็น positioning ของจังหวัดอีกด้วย จึงมีแนวคิดจัดงาน “มหัศจรรย์ได้โนเสาร์ประเทศไทย @ ขอนแก่น” ให้เป็นงานประจำปี ซึ่งครั้งนี้จัดเป็นครั้งที่ 3 โดยปีนี้มุ่งเน้นที่การผลักดันแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา โดยใช้ไดโนเสาร์เป็นตัวนำเรื่อง ภายใต้ชื่อตอน “อุทยานธรณีขอนแก่น ดินแดนไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-24 เมษายน 2559 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จังหวัดขอนแก่น
วัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวด้านธรณีวิทยาของจังหวัดขอนแก่น โดยเผยแพร่องค์ความรู้ด้านทรัพยากรธรณี ตลอดจนสร้างอัตลักษณ์และภาพลักษณ์ที่ดีของ จ.ขอนแก่น, ผลักดันจัดตั้งอุทยานธรณีจังหวัดขอนแก่นให้เป็นอุทยานธรณีระดับประเทศและระดับโลกต่อไป, เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกให้นักเรียน นักศึกษา เยาวชน ประชาชนผู้สนใจ เกิดการเรียนรู้ด้านอนุรักษ์ทรัพยากรธรณี โดยเฉพาะด้านธรณีวิทยาและซากดึกดำบรรพ์อย่างถูกต้อง และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้
ด้านสมหมาย เตชวาล รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นมีแหล่งด้านธรณีวิทยา ธรรมชาติวิทยาและซากดึกดำบรรพ์ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาภูเวียง อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น ที่สำคัญ จ.ขอนแก่นค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์พบเป็นแห่งแรกของประเทศที่หุบเขาภูเวียง และเป็นไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ของโลกถึง 4 ชนิด อายุประมาณ 130 ล้านปี ถือได้ว่าเป็นดินแดนของไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ โดยไดโนเสาร์สายพันธุ์ใหม่ประกอบด้วย
1. ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนาม เป็นไดโนเสาร์กินพืชขนาดใหญ่เดิน 4 ขา คอยาว หางยาว ลำตัวยาวประมาณ 15-20 เมตร 2. สยามโมซอรัส สุธีธรเน ไดโนเสาร์กินเนื้อเดิน 2 ขา ยาวประมาณ 7 เมตร 3. สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซีส ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่เดิน 2 ขา ลำตัวยาวประมาณ 6.5 เมตร มีขาหลังที่ใหญ่และแข็งแรง 4. กินรีมินัส ขอนแก่นเอนซีส ไดโนเสาร์นกกระจอกเทศ วิ่งเร็ว ปราดเปรียว ไม่มีฟัน กินทั้งพืชและสัตว์เป็นอาหาร ยาวประมาณ 1-2 เมตร ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่จังหวัดขอนแก่น
รองอธิบดีกรมทรัพยากรธรณีกล่าวต่อว่า การจัดงานแบ่งพื้นที่ออกเป็น 1. โซนอุทยานธรณี จำลองถ้ำค้างคาว แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอภูผาม่าน มาจัดแสดงประกอบแสง สี เสียง ให้เห็นความสวยงาม และความหลากหลายทางชีวภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยา จำลองหินช้างสี แหล่งธรณีสัณฐาน แหล่งท่องเที่ยว Unseen ของ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น สะพานหินธรรมชาติ แหล่งธรณีวิทยาที่มีลักษณะโดดเด่นของ อ.อุบลรัตน์ และน้ำตกตาดฟ้า แหล่งท่องเที่ยวในเขต อ.เวียงเก่า
2. โซนดินแดนไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ นำตัวอย่างชิ้นกระดูกไดโนเสาร์ทั้ง 4 สายพันธุ์มาจัดแสดง ทั้งนำหุ่นจำลองไดโนเสาร์ที่เคลื่อนไหวได้เสมือนจริงมาแสดง รวมถึงองค์ความรู้ในด้านการขุดค้น สำรวจ ไดโนเสาร์ สร้างองค์ความรู้ให้ผู้เข้าชมตื่นตาตื่นใจเสมือนอยู่ในโลกของสัตว์ดึกดำบรรพ์ ขณะเดียวกันมีกิจกรรมถ่ายภาพที่ระลึกกับไดโนเสาร์ในรูปแบบ 3D เรียนรู้โครงการกระดูกและไดโนเสาร์เคลื่อนไหวได้ในรูปแบบ Interactive AR CODE
การจัดงานครั้งนี้เชื่อมั่นว่าจะสร้างความตื่นตาตื่นใจ ควบคู่ไปกับองค์ความรู้ที่จะได้รับ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกในการหวงแหน และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติดึกดำบรรพ์ที่เป็นสมบัติของชาติ ตลอดจนสร้างรายได้การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และที่สำคัญผลักดันให้จังหวัดขอนแก่นก้าวสู่การเป็นอุทยานธรณีระดับประเทศ และระดับโลกต่อไปในอนาคต