ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา จับกุมรถกระบะขนน้ำมันเถื่อน 4 คัน ซึ่งตกแต่งเหมือนกันหมด ทั้งตัวรถ และป้ายทะเบียนปลอม ขณะลักลอบขนน้ำมันเกือบ 1 หมื่นลิตร จากชายแดนไทย-มาเลเซีย ไปส่งที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
วันนี้ (21 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา นำโดย นายกฤษศักดิ์ฎา สีเพชร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. ร่วมกันสกัดจับรถกระบะลักลอบขนน้ำมันเถื่อนได้ 4 คัน ขณะตั้งด่านตรวจบริเวณสามแยกบ้านจุ้มปะ-ควนขัน หมู่ 5 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
ซึ่งรถทั้ง 4 คัน ถูกตกแต่งให้เหมือนกันทั้งหมด ตั้งแต่ตัวรถซึ่งเป็นรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ตอนเดียว กระบะท้ายติดตั้งหลังคาไฟเบอร์แบบทึบ สวมทะเบียนปลอมป้ายแดง อ 9901 กรุงเทพมหานคร ด้านหน้า ส่วนด้านหลังไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และท้ายรถกระบะมีการติดตั้งถังเหล็ก 4 เหลี่ยมสำหรับใส่น้ำมัน ขนาดความจุตั้งแต่ 2,000-2,500 ลิตร ซึ่งจากการตรวจสอบปริมาณน้ำมันในรถทั้ง 4 คัน พบว่า เป็นน้ำมันเบนซินประมาณ 8,000-10,000 ลิตร คิดตามราคาน้ำมันไทยมูลค่ากว่า 3 แสนบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวคนขับรถทั้ง 4 คน ไปทำการสอบสวน ประกอบด้วย นายยุทยา นุ่นสังข์ อายุ 37 ปี นายอธิชนม์ คำแก้ว อายุ 39 ปี นายมงคล ชูสุวรรณ์ อายุ 28 ปี และนายสากรี สาและ อายุ 32 ปี ซึ่งทราบว่า น้ำมันทั้งหมดเป็นน้ำมันเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามาทางชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้าน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา และนำไปส่งให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช และเป็นเพียงผู้รับจ้างขนให้แก่นายทุนใหญ่เท่านั้น
นายกฤษศักดิ์ฎา สีเพชร์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอรัตภูมิ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีรถยนต์กระบะต้องสงสัยใช้เส้นทางบ้านจุ้มปะ-ควนขัน ซึ่งเป็นเส้นทางลัดที่จะไปออกถนนสายเอเชีย วิ่งผ่านไปมาวันละกว่า 8 เที่ยว และวิ่งด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนตั้งด่านตรวจตั้งแต่ช่วงเช้าเพื่อสกัดจับ และตรวจสอบ ปรากฏว่า เป็นรถกระบะลักลอบขนน้ำมันเถื่อนซึ่งเป็นครั้งแรกที่จับกุมได้
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เผยว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา ยังคงพยายามลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายทั้งในพื้นที่ จ.สงขลา สตูล และจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.นครศรีธรรมราช โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 เนื่องจากยังมีส่วนต่างของราคาที่แตกต่างกันเกือบ 14 บาท โดยน้ำมันเถื่อน ลิตรละประมาณ 18 บาท ส่วนน้ำมันไทย ลิตรละ 32 บาท ซึ่งมีส่วนต่างของกำไรหลังจากหักลบต้นทุนการขนส่งแล้วอีกกว่าลิตรละ 6 บาท
