จันทบุรี - รอง ผบ.ตร. ร่วมกับกองทัพเรือ ผอ.ปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อน และจังหวัดจันทบุรี แถลงข่าวการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ภายในท่าเทียบเรือ หลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ผู้ต้องหา 11 คน เรือลักลอบขายน้ำมันเถื่อน 4 ลำ และน้ำมันเถื่อน 240,000 ลิตร มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ท่าเทียบเรือสงวนสินธุ์ ตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ปนม.ตร. พร้อมด้วย น.อ.ก้องเกียรติ ทองอร่าม ผู้บังคับหมู่เรือลาดตระเวนชายแดนส่วนที่ 1 กองทัพเรือภาคที่ 1 และนายสมหมาย วิเชียรฉันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และทหาร ได้ร่วมกันแถลงข่าวการลักลอบขายน้ำมันเถื่อน (น้ำมันเขียว) ภายในท่าเทียบเรือสงวนสินธุ์
โดยสายข่าวได้มีการเฝ้าการติดตามพฤติกรรมการลักลอบขายน้ำมันเถื่อนนี้มาหลายเดือน จนเมื่อคืนนี้ ในเวลา 20.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ทหาร ชุดปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อน และตำรวจ จึงได้นำกำลัง และเรือ ต.223 และเรือหลวงกันตัง เข้าจับกุม และสามารถตรวจยึดเรือประมงที่ลักลอบขายน้ำมันเถื่อนได้ จำนวน 4 ลำ ประกอบด้วย เรือสงวนสินธ์ 4 เรือสงวนสินธ์ 28 เรือลาภสินธุ์ชล 7 และเรือเหล็กชื่อ ทองวัฒนา 9
พร้อมกันนี้ สามารถจับผู้ต้องหาได้ 11 คน เป็นไต๋เรือ 1 คน ทราบชื่อไต๋เรือ คือ นายชัยยันต์ สุขสงวน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี และแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่เป็นลูกเรือ 10 คน ภายในเรือพบน้ำเถื่อน (น้ำมันเขียว) อยู่ในเรือเหล็กทองวัฒนา 9 จำนวน 240,000 ลิตร มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดเรือ น้ำมันเถื่อนไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 11 คน ก็จะส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการทางกฎหมายในข้อหาผิด พ.ร.บ.ศุลกากร และสรรพสามิต ก่อนที่จะมีการขยายผลหาที่มาของน้ำมันเถื่อนต่อไป
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายชัยยันต์ ไต๋เรือ ให้การยอมรับสารภาพว่า ทำผิดจริง และทำมาหลายครั้งแล้ว โดยจะได้ค่าจ้างเที่ยวละ 30,000 บาท และลักลอบขายที่ท่าเทียบเรือแห่งนี้มานาน โดยจะขายให้แก่ชาวประมงที่อยู่ตามท่าเทียบเรือในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด จนมาถูกจับเมื่อคืนนี้ดังกล่าว
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.และ ผอ.ปนม.ตร.กล่าวว่า สำหรับน้ำมันเขียวเป็นน้ำมันที่ทางรัฐบาลได้มีการยกเว้นภาษีศุลกากร และสรรพสามิต ที่จะต้องมีการจำหน่ายให้แก่เรือประมงนอกชายฝั่ง แต่จะต้องมีการจำหน่ายน้ำมันเขียวห่างจากฝั่งเป็นระยะทาง 12 ไมล์ทะเล การนำมาขายยังท่าเทียบเรือถือเป็นการทำผิดกฎหมาย และมีโทษจำคุก และปรับ
ทั้งนี้ ทาง คชส.ได้มีนโยบายให้มีการปราบปรามการค้าน้ำมันเถื่อนอย่างจริงจัง หากพบว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาดทันที การจับกุมน้ำมันเถื่อนในครั้งนี้ ถือว่าเป็นหลายใหญ่ในรอบ 10 ปีอีกด้วย