สุราษฎร์ธานี - แกนนำที่ดินทำกินจังหวัดสุราษฎร์ธานี บุกร้องทหารให้ดูแลการจัดสรรที่ดินทำกินพื้นที่ที่ราชพัสดุแปลง 848 แปลงประจักวิวัฒน์ อำเภอเคียนซา หลังผู้ว่าฯ เซ็นคำสั่งให้รื้อถอนภายใน 15 วัน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (29 เม.ย.) นายวิทยา ศรีภิรมย์มิตร พร้อมแกนนำกว่า 20 คน ตัวแทนชาวบ้านเข้าสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ขอให้บารมีของเจ้าพ่อศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ดลจิตดลใจ นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ทบทวนการออกคำสั่งดังกล่าว ก่อนที่จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากผู้บังคับการมณฑลทหารบก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ติดภารกิจ ได้มอบหมายให้ พ.อ.ณัติวุฒิ วงศ์ปาลามานนท์ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 45 เข้ารับเรื่องร้องเรียน โดยอนุญาตให้แกนนำ จำนวน 5 คนเข้าพบ
โดยนายวิทยา ได้ชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินกว่า 500 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งที่ตลอดมาได้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคน และเมื่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงบริษัทประจักวิวัฒน์ ได้หมดสัญญาเช่า ได้มีการตกลงหาทางออกโดยนำพื้นที่ดังกล่าวมาแบ่งให้ทางบริษัทเช่าจัดเก็บผลประโยชน์กึ่งหนึ่ง และส่วนที่เหลือ 4,000 กว่าไร่ จะต้องนำมาจัดสรรให้แก่ราษฎรไม่มีที่ดินทำกิน ตามมติ ครม.46 แต่ทางธนารักษ์พื้นที่ได้นำที่ดินที่เหลืออยู่ไปให้ บริษัทประจักวิวัฒน์ จำกัด เช่าเป็นการชั่วคราวเพื่อจัดเก็บผลประโยชน์ต่อเนื่อง
ต่อมา นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาชนที่ยากไร้เข้าอยู่อาศัยเพื่อรอการจัดสรรที่ดินทำกินในพื้นที่ จำนวน 300 ไร่ จนชาวบ้านอยู่กันอย่างสงบไม่มีปัญหาเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ เมื่อมีประกาศจังหวัดดังกล่าวออกมาส่งผลให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เดือดร้อนหนัก จนไม่มีที่พึ่งต้องหันหน้ามาขอความเมตราจากทางทหารเข้าไปดูแล และให้ความเป็นธรรม เพื่อขออยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป พร้อมกันนี้ ยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 7 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตามหนังสือด่วนทีสุดที่ สฎ 0033.3/17472 ลงวันที่ 23 ก.ย.2558 2.เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในข้อกล่าวหาที่ทางบริษัทกล่าวหาตามประกาศจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 19 เม.ย.2559 ให้ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า กลุ่มองค์กรภาคประชาชนขัดขวางการเก็บเกี่ยวผลอาสินของบริษัทจริงหรือไม่
3.ให้ทางจังหวัดจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อยู่อาศัยของราษฎรที่ทางธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี ได้จัดแบ่งแปลงไว้แล้วมิให้ที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินโดนทำลาย
4.แต่งตั้งคณะกรรมการโดยให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม ให้บริษัทดูแล บำรุงรักษาต้นปาล์มในพื้นที่ดังกล่าวมิให้ถูกทำลาย เสมือนวิญญูชนตามข้อตกลงที่ทางธนารักษ์อนุญาตให้เสียค่าตอบแทน และเก็บเกี่ยวผลอาสิน 5.จัดหาที่อยู่อาศัยให้ราษฎรผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ที่ได้เข้าไปสร้างบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ มิให้เกิดความเดือดร้อน
6.ในการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ เกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินทำกินให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคณะกรรมการภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการของคณะกรรมการชุดนั้นๆ ตามหลักประชารัฐ 7.ให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอาผิดตามกฎหมายต่อข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับในการจัดหาผลประโยชน์จากการเก็บเกี่ยวผลอาสินร่วมกับบริษัท 8.ให้ทางผู้บังคับการมณฑลทหารบก จังหวัดสุราษฎร์ธานี (มทบ.45) เป็นผู้ประสานงานในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรผู้ขอรับการจัดสรรที่ดินทำกินให้เกิดความเมตตาธรรม
พ.อ.ณัติวุฒิ วงศ์ปาลามานนท์ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 45 รับหนังสือ และจะนัดทางจังหวัด และแกนนำประชุมพูดคุยทำความเข้าใจ โดยจะกำหนดวันเวลาที่ชัดเจน และแจ้งให้ทางแกนนำทราบ โดยใช้สถานที่ในค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่พูดคุย พร้อมจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบกลุ่ม รปภ.ของบริษัทที่แต่งกายเลียนแบบเครื่องแต่งกายของทหาร หลังจากนั้น กลุ่มแกนนำที่ดินทำกินต่างพอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารรับปากจะเข้าพื้นที่ตรวจข้อเท็จจริงเพื่อนำปัญหาดังกล่าวมาแก้ไขต่อไป
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (29 เม.ย.) นายวิทยา ศรีภิรมย์มิตร พร้อมแกนนำกว่า 20 คน ตัวแทนชาวบ้านเข้าสักการะศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ขอให้บารมีของเจ้าพ่อศาลหลักเมืองสุราษฎร์ธานี ดลจิตดลใจ นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ทบทวนการออกคำสั่งดังกล่าว ก่อนที่จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผู้บังคับการมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่เนื่องจากผู้บังคับการมณฑลทหารบก จังหวัดสุราษฎร์ธานี ติดภารกิจ ได้มอบหมายให้ พ.อ.ณัติวุฒิ วงศ์ปาลามานนท์ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 45 เข้ารับเรื่องร้องเรียน โดยอนุญาตให้แกนนำ จำนวน 5 คนเข้าพบ
โดยนายวิทยา ได้ชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินกว่า 500 ครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งที่ตลอดมาได้ปฏิบัติตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคน และเมื่อสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงบริษัทประจักวิวัฒน์ ได้หมดสัญญาเช่า ได้มีการตกลงหาทางออกโดยนำพื้นที่ดังกล่าวมาแบ่งให้ทางบริษัทเช่าจัดเก็บผลประโยชน์กึ่งหนึ่ง และส่วนที่เหลือ 4,000 กว่าไร่ จะต้องนำมาจัดสรรให้แก่ราษฎรไม่มีที่ดินทำกิน ตามมติ ครม.46 แต่ทางธนารักษ์พื้นที่ได้นำที่ดินที่เหลืออยู่ไปให้ บริษัทประจักวิวัฒน์ จำกัด เช่าเป็นการชั่วคราวเพื่อจัดเก็บผลประโยชน์ต่อเนื่อง
ต่อมา นายฉัตรป้อง ฉัตรภูติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ประชาชนที่ยากไร้เข้าอยู่อาศัยเพื่อรอการจัดสรรที่ดินทำกินในพื้นที่ จำนวน 300 ไร่ จนชาวบ้านอยู่กันอย่างสงบไม่มีปัญหาเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ เมื่อมีประกาศจังหวัดดังกล่าวออกมาส่งผลให้ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่เดือดร้อนหนัก จนไม่มีที่พึ่งต้องหันหน้ามาขอความเมตราจากทางทหารเข้าไปดูแล และให้ความเป็นธรรม เพื่อขออยู่ในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป พร้อมกันนี้ ยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 7 ข้อ ประกอบด้วย 1.ให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตามหนังสือด่วนทีสุดที่ สฎ 0033.3/17472 ลงวันที่ 23 ก.ย.2558 2.เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในข้อกล่าวหาที่ทางบริษัทกล่าวหาตามประกาศจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 19 เม.ย.2559 ให้ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า กลุ่มองค์กรภาคประชาชนขัดขวางการเก็บเกี่ยวผลอาสินของบริษัทจริงหรือไม่
3.ให้ทางจังหวัดจัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่อยู่อาศัยของราษฎรที่ทางธนารักษ์พื้นที่สุราษฎร์ธานี ได้จัดแบ่งแปลงไว้แล้วมิให้ที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินโดนทำลาย
4.แต่งตั้งคณะกรรมการโดยให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วม ให้บริษัทดูแล บำรุงรักษาต้นปาล์มในพื้นที่ดังกล่าวมิให้ถูกทำลาย เสมือนวิญญูชนตามข้อตกลงที่ทางธนารักษ์อนุญาตให้เสียค่าตอบแทน และเก็บเกี่ยวผลอาสิน 5.จัดหาที่อยู่อาศัยให้ราษฎรผู้ยากไร้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ที่ได้เข้าไปสร้างบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ มิให้เกิดความเดือดร้อน
6.ในการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดต่างๆ เกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินทำกินให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคณะกรรมการภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการของคณะกรรมการชุดนั้นๆ ตามหลักประชารัฐ 7.ให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอาผิดตามกฎหมายต่อข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้เข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับในการจัดหาผลประโยชน์จากการเก็บเกี่ยวผลอาสินร่วมกับบริษัท 8.ให้ทางผู้บังคับการมณฑลทหารบก จังหวัดสุราษฎร์ธานี (มทบ.45) เป็นผู้ประสานงานในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรผู้ขอรับการจัดสรรที่ดินทำกินให้เกิดความเมตตาธรรม
พ.อ.ณัติวุฒิ วงศ์ปาลามานนท์ รองเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 45 รับหนังสือ และจะนัดทางจังหวัด และแกนนำประชุมพูดคุยทำความเข้าใจ โดยจะกำหนดวันเวลาที่ชัดเจน และแจ้งให้ทางแกนนำทราบ โดยใช้สถานที่ในค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่พูดคุย พร้อมจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และตรวจสอบกลุ่ม รปภ.ของบริษัทที่แต่งกายเลียนแบบเครื่องแต่งกายของทหาร หลังจากนั้น กลุ่มแกนนำที่ดินทำกินต่างพอใจที่ทางเจ้าหน้าที่ทหารรับปากจะเข้าพื้นที่ตรวจข้อเท็จจริงเพื่อนำปัญหาดังกล่าวมาแก้ไขต่อไป