ศูนย์ข่าวภาคใต้ - แสดงพลัง! ชาวเกาะลันตานับหมื่นลุกฮือแสดงสัญลักษณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ในโอกาสเปิดสะพานข้ามระหว่างเกาะลันตาน้อย กับเกาะลันตาใหญ่ ยันแสดงเจตนารมณ์จนกว่ารัฐบาลจะประกาศยกเลิกในที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวานนี้ (22 เม.ย.) ที่เกาะลันตา จ.กระบี่ ชาวเกาะลันตา ได้ร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในโอกาสเปิดสะพานข้ามระหว่างเกาะลันตาน้อย กับเกาะลันตาใหญ่ และช่วงวัน เวลา ที่ตรงกับวันคุ้มครองโลก โดยในครั้งนี้มีผู้ร่วมงานประมาณ10,000 คน
โดยได้ร่วมกันแสดงสัญลักษณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน หลังจากที่รัฐบาล และ กฟผ.ประกาศเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเต็มสูบ โดยไม่สนใจบทสรุปของกรรมการ 3 ฝ่าย ซึ่งต้องรออีก 3 ปี โดยชาวเกาะลันตา ได้ยืนแสดงสัญลักษณ์ไปตามแนวสะพาน ตั้งแต่ตีนสะพาน และชูป้ายคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และพร้อมกันใส่เสื้อ lanta nocoal และเสื้อ save andaman รวมถึงสัญลักษณ์อื่นๆ ที่แสดงออกถึงการไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน
นายสมบูรณ์ ดำรงอ่องตระกูล กำนันตำบลศาลาด่าน ในฐานะผู้นำท้องที่ และเป็นผู้อาวุโสของเกาะลันตา กล่าวว่า ชาวเกาะลันตาได้แสดงจุดยืนในการคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินมาไม่น้อยกว่า 2 ปี ซึ่งในช่วงหลังจากมีกรรมการ 3 ฝ่าย ได้ยุติบทบาทลงเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเคารพการตัดสินใจของกรรมการ 3 ฝ่าย ในการให้ จ.กระบี่ ดำเนินการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากน้ำเสียโรงงานปาล์ม โดยใช้เวลา 3 ปี ภายใต้การสนับสนุนสายส่งของรัฐบาล
หากไม่สามารถดำเนินการผลิตได้เพียงพอจึงค่อยมาพิจารณาเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินกันใหม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ กำลังเกิดการเบี้ยว ไม่รักษาสัจจะของ กฟผ.ที่ประกาศว่าจะดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในอีก 8 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ส่อไปในทางเบี้ยวข้อตกลง 3 ปี วันนี้ชาวลันตาจึงต้องลุกขึ้นมาบอกให้รัฐบาลทราบว่า อย่าเบี้ยวข้อตกลงที่ทำกันไว้
ชาวเกาะลันตา ยังยืนยันไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินโดยเด็ดขาด วันนี้เรามาแสดงสัญลักษณ์เพื่อบอกว่า เจตนารมณ์ของเรายังเหมือนเดิม กฟผ.ต้องเคารพข้อตกลงที่เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินทำไว้กับรัฐบาล และมีกรรมการ 3 ฝ่าย ดำเนินการอยู่ การจะตัดสินว่าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่นั้น ต้องดำเนินการหลัง 3 ปีไปแล้ว หากยังไม่เคารพข้อตกลง ชาวลันตาก็จะลุกขึ้นมาคัดค้านจนกว่าจะมีการยุติ
ด้าน นางขวัญกนก กสิรวัฒน์ ผู้ประกอบการเกาะลันตา ในฐานะกรรมการกลุ่มคัดค้านถ่านหินเกาะลันตา กล่าวว่า จ.กระบี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติ กฟผ.เอาอะไรคิดที่จะเอาโรงไฟฟ้าถ่านหินมาสร้างที่ จ.กระบี่ รัฐบาลก็ต้องตระหนักต่อสายตาชาวโลก รวมถึงการที่ นายกรัฐมนตรี ไปประกาศที่ปารีส ว่า จะลดโลกร้อน แต่กลับสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นการพูดที่สวนทางต่อการกระทำ อันดามัน มีรายได้จากการท่องเที่ยวหลายแสนล้าน มีการสร้างงานอยู่จำนวนมาก หากการท่องเที่ยวถูกทำลาย ไม่เฉพาะสิ่งแวดล้อมที่จะเสียหาย แต่เศรษฐกิจก็จะเสียหายจำนวนมากด้วย โดยเฉพาะจะมีคนตกงานเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงต้องคิดให้ดีเพราะเราก็ไม่ยอมแน่นอน
ขณะที่ นางกนกวรรณ แซ่เอี่ยว ชาวบ้านตำบลคลองรั้ว พื้นที่สร้างท่าเรือขนส่งถ่านหิน และอนุกรรมการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมในกรรมการ 3 ฝ่าย ซึ่งได้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า จ.กระบี่ นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้ว ยังมีการทำประมงที่สำคัญ และยังมีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์มาก หากไม่รักษาเอาไว้ในอนาคตลูกหลานจะเกิดวิบากกรรมด้านอาหาร เราขอคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ร่วมกับชาวลันตาอย่างเต็มที่ โดยส่วนตัวเป็นอนุกรรมการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมในกรรมการ 3 ฝ่ายด้วย ยืนยันว่า กฟผ.ต้องเคารพการดำเนินการ 3 ปี ของพลังงานไฟฟ้าจากน้ำเสียโรงงานปาล์ม เพราะหากไม่เคารพ พลังของคนรักษาสิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยวจะออกมาทั้งประเทศ
ส่วน นายสมนึก กรดเสือ แกนนำชุมชนชาวปกาศัย อนุกรรมการรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมในกรรมการ 3 ฝ่าย กล่าวว่า โรงไฟฟ้าถ่านหินนั้นมีผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะสวนปาล์มของ จ.กระบี่นั้นมีจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบจากควันพิษ และฝนกรดที่จะเกิดขึ้น หลังจากมีโรงไฟฟ้าถ่านหินแล้ว เราเห็นตัวอย่างได้จากแม่เมาะ และต่างประเทศทั่วโลกที่ต่างได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าถ่านหิน ฉะนั้น ที่ จ.กระบี่ ไม่ควรเกิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน รวมทั้งทุกที่บนโลกใบนี้ นอกจากนี้ ไฟฟ้าจากประเทศเรายังสามารถผลิตได้จากอีกหลายทาง วันนี้โลกไปไกลมาก แต่เรายังจะอยู่กับถ่านหินอีกหรือ
สำหรับการแสดงพลังในครั้งนี้ มีภาคธุรกิจโรงแรม และธุรกิจท่องเที่ยวของเกาะลันตาจำนวนมากเข้าร่วมงาน โดยทั้งหมดได้แสดงเจตนารมณ์ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน และได้ประกาศร่วมกันว่า วันนี้เป็นการนับหนึ่งครั้งใหม่ของคนเกาะลันตา ในการคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน และหลังจากนี้ จะมีปฏิบัติการอื่นตามมาจนกว่ารัฐบาลจะยกเลิก
