ตรัง - นศ.ร่วมผ่าซากสัตว์ทะเลหายากได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในฝั่งอันดามัน ช่วยลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลาโดยไม่ต้องส่งซากไปยังศูนย์วิจัยฯ จ.ภูเก็ต และยังสามารถสตัฟฟ์ซากไว้ใน จ.ตรัง เพื่อได้ทำการศึกษาต่อไป
วันนี้ (21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำราชมงคลตรัง คณะสัตวแพทย์กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต ร่วมกับนักศึกษาคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล จ.นครศรีธรรมราช และราชมงคลตรัง ทำการผ่าซากโลมาหลังโหนกเพศเมีย ความยาว 2 เมตร น้ำหนัก 80 กิโลกรัม ที่พบลอยเกยตื้นบริเวณเกาะสุกร หมู่ที่ 4 ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งแรกในการผ่าซากสัตว์ทะเลหายากได้เองในพื้นที่ โดยไม่ต้องส่งซากไปยังศูนย์วิจัยฯ จ.ภูเก็ต เพื่อลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา ทั้งยังได้สอนนักศึกษาคณะสัตวแพทย์ให้ได้ปฏิบัติจริง และยังใช้ซากสัตว์ทะเลหายากที่ผ่าพิสูจน์แล้วสตัฟฟ์ไว้ใน จ.ตรัง เพื่อให้เยาวชน และประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ต่อไปในอนาคต
โดยผลการชันสูตรซากสัตว์ทะเลหายากที่ได้ในแต่ละตัวจะส่งข้อมูลป้อนไปยังศูนย์วิจัยฯ จ.ภูเก็ต เพื่อให้ประมวลผลว่า สัตว์เกยตื้นตายด้วยสาเหตุใด ซึ่งหลังจากนี้หากพบซากสัตว์ทะเลหายาก เช่น พะยูน โลมา เต่าทะเล วาฬ และอื่นๆ ที่ตายในท้องทะเลตรัง นักศึกษาคณะสัตวแพทย์จะสามารถผ่าพิสูจน์ได้เอง โดยรับซากสัตว์ทะเลหายากจากจังหวัดใกล้เคียงเช่น จ.กระบี่ และ จ.สตูลด้วย
โดยในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีสัตวแพทย์จาก จ.ภูเก็ต เดินทางมาประจำอยู่ที่ราชมงคลตรังเพื่อร่วมผ่าพิสูจน์ซากสัตว์ทะเลหายาก รวมทั้งเฝ้าระวังการเกยตื้นในท้องทะเลตรังอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดอัตราการตายให้ลดลง
ด้าน ผศ.โกสินทร์ พัฒนมณี ผอ.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำราชมงคลตรัง กล่าวว่า เป็นความร่วมมือกันระหว่างสัตวแพทย์ จ.ภูเก็ต จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ตรัง นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกใน จ.ตรังและฝั่งอันดามัน โดยส่งผลการผ่าพิสูจน์ไปยังศูนย์วิจัยฯ จ.ภูเก็ต เพื่อให้ประมวลผล ซึ่งนักศึกษาสามารถฝึกปฏิบัติจริงโดยมีพี่เลี้ยงคอยควบคุมดูแล ลดค่าใช้จ่ายในการส่งซากสัตว์ทะเลหายากไปยัง จ.ภูเก็ต และยังนำซากเก็บไว้เพื่อเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้กับเยาวชน และประชาชนที่สนใจ ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้ จะมีสัตวแพทย์จาก จ.ภูเก็ต มาประจำอยู่ที่ จ.ตรังแล้ว
