เรื่อง/ภาพ : ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที
--------------------------------------------------------------------------------
ท่ามกลางลมร้อนหลังสงกรานต์ของเดือนเมษายน ตั้งใจพาท่านผู้อ่านไปเที่ยว “จังหวัดทวาย” หรือ “จังหวัดดะแว” ประเทศพม่ากันดีกว่า
“คณะนักบุกเบิกจากเอเอสทีวี” กว่า 30 ชีวิต ออกเดินทางจากบ้านพุน้ำร้อน จังหวัดกาญจนบุรี ระยะทาง 150 กิโลเมตร
คณะนักบุกเบิกเดินทางข้ามทะเลเทือกเขาตะนาวศรี ไต่ระดับความสูงของถนนจากต่ำสุด ไปถึงสูงสุดประมาณ 5 ชั่วโมง ไต่ขึ้นไต่ลงผ่านถนนที่ยังไม่ได้ราดยางที่บริษัทคนไทยสร้างค้างเอาไว้
เพียงหลับไป เหมือนนอนไกวเปลโยกไปโยกมา
ทั้งนี้ เพื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดทวาย “เมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้” ของประเทศพม่า
เมืองที่เราเคยท่องจำในวิชาประวัติศาสตร์ของชาติว่า อังกฤษได้ทำสนธิสัญญาเขตแดนใหม่ เราต้องสูญเสียทวาย มะริด และตะนาวศรี เมื่อปี พ.ศ.2336
วิถีชีวิตของคนทวายวันนี้ถือว่ายังมีความบริสุทธิ์ ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร โลตัส หรือร้าน 7-11 ยังไม่มีเข้ามายึดกุมเศรษฐกิจ
วิถีชีวิตพวกเขา หากใครได้ไปสัมผัสจะรู้สึกเหมือนกับได้สัมผัสกับสังคม หรือวิถีชีวิตของชาวภูเก็ต พังงา ระนอง เมื่อราว 50 ปีที่แล้ว
ถือเป็นเป็นสังคม Slow life วิถีชีวิตที่เดินไปแบบเรียบง่าย
ในเขตตัวเมืองจะมีลูกหลานของทวายรุ่นที่สอง รุ่นที่สาม ซึ่งเป็น “ชาวจีนฮกเกี้ยน” แต่นุ่งโสร่ง กินหมาก เปิดร้านกาแฟ ขายเสื้อผ้า ขายเครื่องก่อสร้าง
รอยยิ้มของชาวทวายที่ต้อนรับผู้มาเยือนดูจะเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจาก “หัวใจใสๆ” ของชาวทวาย ที่การพัฒนาของทุนนิยมที่บ้าคลั่งยังคืบคลานไปไม่ถึง
เมื่อเริ่มทักทายกันพอรู้ว่าพวกเราเป็น “คนไทย” แววตา และรอยยิ้มที่ได้รับการต้อนรับ..เรารับรู้ได้ว่า...เหมือนผูกพันกันมานานแสนนาน...