กาญจนบุรี - ชาวท่าเรือล้นทะลักห้องประชุม ร่วมคิด ร่วมฟังผลกระทบรถไฟทางคู่ ท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าเทียบเรือน้ำลึกทวาย ยันขอเส้นทางที่ 1 หรือทำขนานมอเตอร์เวย์บางใหญ่-เมืองกาญจน์
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (22 ต.ค.) ที่ห้องประชุมอาคารคุณแม่ใหญ่ (ไทยยนต์) ข้างศูนย์แพทย์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ต.ท่าเรือพระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายปัฐตพงษ์ บุญแก้ว วิศวกร 8 การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) นายเอกพงศ์ เที่ยวแสวง ที่ปรึกษาบริษัท ทีแอลที คอนซัลแตนส์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาโครงการศึกษาความเป็นไปได้การเชื่อมต่อทางรถไฟระหว่างท่าเรือแหลมฉบัง-ท่าเทียบเรือน้ำลึกทวาย จัดเวทีเพื่อรับฟังความคิดเห็น โดยมี นายวราวุฒิ พงษ์วิทยภานุ นายวิชัย ล้อศิริ ตัวแทนพร้อมด้วยประชาชนที่อาศัยอยู่ริมทางสถานีรถไฟท่าเรือกว่า 400 คนเข้าร่วม
นายเอกพงศ์ กล่าวว่า บริษัทได้ศึกษาและกำหนดเส้นทางรถไฟที่คาดว่าจะเป็นไปได้เอาไว้ 5 เส้นทาง คือ เส้นทางที่ 1 สถานีแดนบ้านพุน้ำร้อน-สถานีชุมทางหนองปลาดุก-สถานีบางซื่อ-สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทางประมาณ 342 กิโลเมตร เส้นทางดังกล่าวผ่านพื้นที่ 6 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
เส้นทางที่ 2 สถานีแดนบ้านพุน้ำร้อน-สถานีชุมทางหนองปลาดุก-สถานีหนองฟัก-สถานีองครักษ์-สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-ท่าเรือแหลมฉบัง รวมระยะทาง 401 กิโลเมตร ผ่าน 9 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครนายก ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
เส้นทางที่ 3 สถานีแดนบ้านพุน้ำร้อน-สถานีชุมทางหนองปลาดุก-สถานีหนองผักชี-สถานีมาบพระจันทร์-สถานีชุมทางแก่งคอย-สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 447 กิโลเมตร ผ่าน 9 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครนายก ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
เส้นทางที่ 4 สถานีแดนบ้านพุน้ำร้อน-สถานีชุมทางหนองปลาดุก-สถานีหนองฟัก-สถานีองครักษ์-สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 322 กิโลเมตร ผ่าน 8 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
เส้นทางที่ 5 สถานีแดนบ้านพุน้ำร้อน-สถานีชุมทางหนองปลาดุก-สถานีนครชัยศรี-สถานีองครักษ์-สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา-ท่าเรือแหลมฉบัง ระยะทาง 404 กิโลเมตร ผ่าน 9 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครนายก ฉะเชิงเทรา และชลบุรี
ซึ่งทางเลือกที่ศึกษามาทั้ง 5 เส้นทางพบว่า เส้นทางที่ 4 ระยะทาง 322 กิโลเมตร ถือว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนที่สุด เหมาะสมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม สิ่งแวดล้อม
นายวราวุฒิ พงษ์วิทยภานุ ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ยังมีความสับสนว่ารถไฟจะตัดผ่านเส้นทางไหนกันแน่ โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ข้างทางรถไฟทั้ง 2 ฝั่ง ตนจึงเชิญเจ้าหน้าที่ ร.ฟ.ท. รวมทั้งเจ้าหน้าที่บริษัทที่ศึกษาเส้นทาง มาให้ความรู้แก่ประชาชน และเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ยังไม่เข้าใจได้ร่วมกันสอบถาม และแสดงความคิดเห็น ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่าก็ทราบว่า เส้นทางรถไฟที่ถูกเลือกเอาไว้เบื้องต้น คือ เส้นทางที่ 4 ยังสามารถปรับไปใช้เส้นทางอื่นได้ เพราะยังอยู่ในระหว่างการศึกษาเท่านั้น
ด้าน นายวิชัย ล้อศิริ ที่ปรึกษาประธานหอการค้าจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ชาวเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ยินดีที่จะให้มีทางรถไฟทางคู่เกิดขึ้น แต่เรามีข้อเสนอที่ดีกว่า คือ จังหวัดกาญจนบุรี มีโครงการถนนมอเตอร์เวย์มาจากบางใหญ่อยู่แล้ว ถนนส่วนหนึ่งก็เชื่อมต่อไปยังด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการถกเถียงกันเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งชาวกาญจนบุรีมีความต้องการที่จะขอใช้เส้นทางสายที่ 1 แต่ทางบริษัทที่ปรึกษาโครงการจะเอาสายที่ 4 ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
ดังนั้น ขอเสนอว่าหากทางรถไฟทางคู่มาจากสถานีรถไฟหนองปลาดุก ก็ขอให้เปลี่ยนมาใช้เส้นทางรถไฟทางคู่สร้างประกบคู่ขนานมากับถนนมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่ไปเลย เพราะถนนเส้นดังกล่าวก็ไปถึงด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง
แต่อย่างไรก็ตาม ชาวท่าเรือพระแท่น และชาวกาญจนบุรีไม่ได้คัดค้านโครงการดังกล่าว เพียงแต่ต้องการให้ ร.ฟ.ท. และบริษัทที่ศึกษาเส้นทางให้เลือกใช้เส้นทางที่มีความเหมาะสมที่สุด แต่จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อชาวกาญจนบุรีอย่างเด็ดขาด
รายงานข่าวแจ้งว่า ประชาชนที่เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่มีบ้านอาศัยอยู่ริมทางรถไฟเกือบทั้งหมด และเช่าที่การรถไฟฯ เพื่อปลูกบ้านเป็นที่อยู่อาศัย รวมทั้งเปิดเป็นร้านค้า จากการสอบถามต่างก็ตอบตรงกันว่า หากจะเอาที่ดินคืนทุกคนก็ยินยอมเพื่อเศรษฐกิจที่ดี แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ยังมีความกังวลใจอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านที่มีฐานะยากจน