ตรัง - รอง ผบช.ภ.9 นำทีม ตร. เมืองตรัง แถลงข่าวจับผู้ต้องสงสัยทำร้ายพระวัดไม้ฝาด แต่เจ้าตัวปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างวันเกิดเหตุอยู่กับลูกเมีย ไม่ทราบสาเหตุทำไมพระดวง เอ่ยชื่อตนเป็นผู้ร้าย
วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สรุนาท วรรณวรรค รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท.นิรัตน์ ปานดำ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.พสิษฐ์ ศานติปรัชญา ผกก.สภ.สิเกา และ พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เกตุขาว สวญ.สภ.บ้านในควน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ตรัง สภ.สิเกา และ สภ.บ้านในควน ร่วมกันแถลงข่าวคดีอาชญากรรมสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยในพื้นที่ จ.ตรัง
โดยคดีแรกคือ ตำรวจ สภ.สิเกา รับมอบตัว นายกิตติศักดิ์ หรือตู่ รอดอ่อน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 141 ม.6 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ผู้ต้องหาทำร้ายพระภิกษุดวง ภักดี อายุ 87 ปี พระลูกวัดไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง ขณะกำลังจำวัดอยู่ในกุฏิเพื่อลักทรัพย์ และได้ใช้สีน้ำมันทากันสนิมเทราดบนร่างกายพระดวง จนได้รับบาดเจ็บ โดยคาดว่า ก่อนเกิดเหตุ นายกิตติศักดิ์ พร้อมพวกรวม 2 คน ผลักประตูเข้ามาในกุฏิพูดจาขอเงินจากผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายปฏิเสธจึงเกิดความไม่พอใจหยิบกระป๋องสีน้ำมันทากันสนิมที่วางอยู่ในกุฏิเทราดลงบนศีรษะของผู้เสียหาย พร้อมทำร้าย และผลักหงายล้มลงกับพื้น เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าแข้ง และศีรษะ ก่อนหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามไล่ล่าจนสืบทราบ และออกหมายจับ แต่ นายกิตติศักดิ์ ชิงมอบตัวเสียก่อน พร้อมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนพวกอีก 1 คน ที่กำลังหลบหนีกำลังอยู่ระหว่างติดตาม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันบุกรุก ใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ส่งดำเนินคดีต่อไป
ส่วนคดีที่ 2 ตำรวจ สภ.ในควน รับมอบตัว นายกิตติพงษ์ เพชรศรีจันทร์ ได้ใช้อาวุธมีดพร้าฟัน นายนราศักดิ์ ขวัญแก้ว อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 ม.4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ถูกบริเวณศีรษะ และแขนขวาเสียชีวิต และใช้อาวุธมีดพร้าไล่ฟัน นายวัชรา ขวัญแก้ว ที่เข้าไปห้าม และได้มี นายยุทธอนันต์ ท้ามบุญฤทธิ์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายวัชรา จำนวน 2 นัด แต่สามารถหลบหนีไปได้ และไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองก็อาศัยความชุลมุนหลบหนีไป จากการสืบสวน กดดัน ติดตามจับกุมส่งผลให้ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว โดย นายกิตติพงษ์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วน นายยุทธอนันต์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
