ตรัง - ตำรวจตรังบุกบ้านหนุ่มนาโยง ค้นพบอาวุธปืนกลมือ พร้อมกระสุน และอาวุธปืนชนิดต่างๆ อีกเพียบ เจ้าตัวอ้างเป็นของเพื่อนนำมาฝากไว้ที่บ้าน และไม่เคยใช้งาน พร้อมรับเสพยาบ้าวันละ 1-2 เม็ดทุกวันด้วย
วันนี้ (11 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.นาโยง จ.ตรัง พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง พร้อมด้วย พ.อ.ธวัชชัย รักอาชีพ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.ตรัง พ.ต.อ.ชัยโรจน์ โพธิปฐม ผู้กำกับการ สภ.นาโยง และนายเจริญ ศรนารายณ์ กำนันตำบลนาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาครอบครองอาวุธสงคราม จำนวน 1 ราย หลังจากนำหมายค้นของศาลจังหวัดตรัง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 5/4 ม.1 ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้คือ นายกิตติศักดิ์ บายศรี อายุ 23 ปี
จากการตรวจสอบ และค้นบ้านหลังดังกล่าว พบอาวุธปืนกลมือ ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 20 นัด อาวุธปืนลูกซองยาวไม่มีทะเบียน จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ซึ่งใช้กับกระสุนปืนขนาด .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 6 นัด รวมทั้งพานท้ายปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 อัน ศูนย์หน้าปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 อัน ยาบ้า จำนวน 6 เม็ด และต้นพืชกระท่อม จำนวน 3 ต้น
สำหรับผู้ต้องหารายนี้ยอมรับว่า อาวุธปืนทั้ง 3 กระบอก ที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดในครั้งนี้ เป็นของตนเพียง 1 กระบอก ส่วนอีก 2 กระบอก มีเพื่อนมาฝากเก็บไว้ที่บ้าน และไม่เคยใช้งานเลย นอกจากพกพาไปในเมืองบ้างเวลาออกไปเที่ยวเตร่นอกบ้าน โดยอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .38 ตนซื้อมาจากเพื่อนที่ จ.พัทลุง เนื่องจากกระบอกเล็ก สวยงาม ง่ายต่อการพกพา นอกจากนั้น ผู้ต้องหารายนี้ยังยอมรับอีกว่า ได้เสพยาบ้าวันละ 1-2 เม็ดทุกวันอีกด้วย
ส่วนผู้ต้องหาอีก 1 ราย ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่งนำตัวมาแถลงข่าว หลังจากการขยายผลตรวจค้นบ้านของ นายกิตติศักดิ์ คือ นายปรเมศวร์ ชุมสุด อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.1 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งทำงานอยู่ที่ร้านคาร์แคร์แห่งหนึ่ง พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนปากกา จำนวน 1 กระบอก
พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตรัง เปิดเผยว่า ช่วงนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานกันอย่างหนัก และเข้มงวดมากยิ่งขึ้นในการกวาดล้างยาเสพติด และอาวุธสงคราม ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเฉพาะอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนให้พกพาสะดวก และมิดชิดมากยิ่งขึ้นเพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้น จึงสั่งให้ตำรวจชุดปราบปรามทุกนายปรับเปลี่ยนแผนในการสืบสวน และตรวจค้น เพื่อกวาดล้างผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
