MGR Online - ชุดสืบสวน บก.น.7 รวบ 2 หนุ่มอาชีพขาายรถมือสองและวิน จยย.รับจ้าง ผันตัวมาค้ายาบ้าย่าน กทม.และปริมณฑล สอบประวัติเคยต้องโทษในคดียาเสพติด และรู้จักกันในเรือนจำปทุมธานี หลังพ้นโทษจึงออกมาร่วมกระทำความผิดซ้ำ
วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.15 น. พ.ต.อ.ภิญโญ ป้อมสถิต ผกก.สส.บก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชนะชัย ไชยทอง รอง ผกก.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ พฤกษ์สุวัฒน์ สว.สส.บก.น.7 พ.ต.ท.บุญวาทย์ เชื้อเมืองพาน สว.สส.บก.น.7 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.7 ร่วมกันจับกุมตัว นายอุทิศ หรือชวน สุตะไล อายุ 37 ปี อาชีพซื้อขายรถยนต์มือสอง อยู่บ้านเลขที่ 56/293 หมู่ที่ 1 ต.เมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และนายสมศักดิ์ หรือสังข์ ทัพน้อย อายุ 41 ปี อาชีพขับวินจักรยานยนต์รับจ้างย่านดินแดง อยู่บ้านเลขที่ 579/106 ซอยแยกรัชฏภัณฑ์ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 9 มัด มัดละ 2,000 เม็ด, ถุงพลาสติก 3 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวม 18,600 เม็ด, อาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อบาเรตต้า รุ่น 950 บีแคต ขนาด 6.35 มม. หมายเลขทะเบียน กท 920389 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด 6.35 มม.จำนวน 7 นัด และซองกระสุนปืน 1 ซอง โดยสามารถจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 56/293 หมู่ 1 ซอยวัดไตรสามัคคี 5 ต.บางเมืองใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
พ.ต.ท.กิตติศักดิ์เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.7 ได้จับกุมผู้ต้องหาคดีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย จึงทำการขยายผลจนทราบว่ารับยาเสพติดมาจากนายอุทิศ และนายสมศักดิ์ ที่มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าที่บ้านพักเลขที่ 56/293 ในจังหวัดสมุทรปราการ โดยผู้ต้องหาได้เข้าไปรับยาที่บ้านหลังดังกล่าวหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่ ค.834/2558 ลงวันที่ 29 พ.ย. จากนั้น ชุดจับกุมได้วางแผนแล้วทำการเข้าตรวจค้นบ้านดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ความสูง 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด จากการตรวจค้นในห้องนอนบนชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่พบยาบ้ามัดไว้จำนวน 9 มัด และใส่ถุงพลาสติกอีก 3 ถุง ถุงละ 200 เม็ด รวมกว่า 18,600 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตะกร้าผ้าที่ใส่แล้ว จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมยึดยาบ้าที่พบไว้เป็นของกลาง โดยหลังจับกุมแล้วเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบประวัติพบว่านายสมศักดิ์มีประวัติเคยต้องคดีฆ่าคนตายเมื่อปี 2545 ท้องที่ สน.อุดมสุข (ชนะคดี) และคดีจำหน่ายยาเสพติด สน.พหลโยธิน ปี 2555 ต้องโทษจำคุก 5 ปี ส่วนนายอุทิศเคยต้องโทษคดีจำหน่ายยาเสพติด ปี 2552 ต้องโทษประมาณ 3 ปี
สอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่ารู้จักในเรือนจำใน จ.ปทุมธานี ช่วงที่ถูกจำคุกคดีจำหน่ายยาเสพติด ส่วนยาบ้าของกลางนั้นรับมาจากนายแดง (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) เพื่อนของนายสมศักดิ์ การรับยาบ้าแต่ละครั้งนายแดงจะโทรศัพท์ติดต่อให้นายสมศักดิ์ไปรับยาเสพติดตามสถานที่ต่างๆ ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด อาทิ บริเวณตลาดไท จ.ปทุมธานี ครั้งละประมาณ 10 มัด จากนั้นนายสมศักดิ์จะชวนนายอุทิศให้ไปรับยาด้วยกัน เมื่อไปถึงที่นัดพบก็จะมีตัวแทนของนายแดงติดต่อเข้ามาก่อนที่จะวางยาเสพติดไว้ตามจุดต่างๆ แล้วให้นายสมศักดิ์กับนายอุทิศไปรับ โดยแต่ละครั้งจะไม่เห็นตัวคนที่วางยาเสพติดไว้ หลังจากนั้นผู้ต้องหาทั้งสองจะนำยาเสพติดไปเก็บไว้ในบ้านพักของญาตินายอุทิศในจังหวัดสมุทรปราการ โดยนายอุทิศกับนายสมศักดิ์มีหน้าที่นำยาเสพติดที่รับมาไปส่งต่อให้กับลูกค้าของนายแดงอีกต่อหนึ่ง โดยนายแดงจะให้ข้อมูลยาเสพติดและเบอร์โทรศัพท์ลูกค้า ก่อนที่ผู้ต้องหาทั้งสองจะติดต่อและนัดลูกค้าของนายแดงไปรับยาเสพติดตามจุดที่นัดไว้ ด้วยวิธีเดิม คือ วางยาตามจุดนัดแล้วให้ลูกค้าไปรับยา โดยแต่ละครั้งจะได้รับผลตอบแทนเป็นยาบ้าร้อยละ 3 (ส่ง 100 เม็ด ได้ 3 เม็ด) ทำลักษณะนี้มาแล้วไม่เกิน 1 ปี ส่วนอาวุธปืนของกลางนั้นเป็นของนายอุทิศ รับซื้อมาจากคนรู้จักในราคา 5,000 บาท ส่วนสาเหตุที่ทำไปก็เพราะถูกชักชวน ไม่ได้มีปัญหาการเงินแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และแจ้งข้อหาต่อนายอุทิศ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ควบคุมตัวส่ง บช.ปส.ดำเนินคดี พร้อมขยายผลจับกุมนายแดง ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับคดีฆ่าผู้อื่นในท้องที่ สภ.ลำลูกกา และคดีปล้น-ฆ่าในพื้นที่ สน.อุดมสุข ตอนนี้หลบหนีไปอยู่ประเทศพม่า มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
