ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวรัตภูมิ จ.สงขลา ร่วมอนุรักษ์ที่ว่าการอำเภอหลังเก่า สัญลักษณ์แห่งสถานที่เสด็จพระราชดำเนินของ “ในหลวง-ราชินี” ที่ทรงมาเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ อ.รัตภูมิ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2502 รวมระยะเวลา 57 ปีแล้ว พร้อมภาพประวัติศาสตร์ที่หาชมได้ยาก
วันนี้ (8 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวอำเภอรัตภูมิ ได้ร่วมกันอนุรักษ์ที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ หลังเก่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งสถานที่เสด็จพระราชดำเนินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมาเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2502 รวมเวลา 57 ปี
ซึ่งปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์สภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ รวบรวมวัตถุโบราณและอนุรักษ์ไว้เป็นแหล่งเรียนรู้ของคนรุ่นหลัง และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท โดยเฉพาะภาพความประทับใจระหว่างที่ทั้งสองพระองค์เสด็จถึงที่ว่าการอำเภอ และโบกพระหัตถ์ทักทายราษฎร ซึ่งถูกนำประดับไว้ภายในที่ว่าการอำเภอรัตภูมิหลังเก่าแห่งนี้ ซึ่งป้ายของที่ว่าการอำเภอ ยังเขียนเป็นภาษาเดิมมี ต.เต่า 2 ตัวคือ “รัตตภูมิ” ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่เขียนว่า “รัตภูมิ”
นายเนียม ขุนเพชร อายุ 76 ปี อดีตประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอรัตภูมิ ซึ่งได้มีโอกาสร่วมรับเสด็จ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ หลายฝ่ายต้องการรื้อที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ หลังเก่า ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างด้วยไม้ เพื่อสร้างที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ แต่ชาวบ้านได้ร่วมกันคัดค้าน เนื่องจากเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ของชาวรัตภูมิ สุดท้ายจึงยกเลิกการรื้อถอน และสร้างที่ว่าการอำเภอหลังใหม่ขึ้นมาแทนซึ่งอยู่ติดกันในปัจจุบัน
นายเนียม บอกด้วยว่า ตอนนั้นตนยังเป็นวัยรุ่น อายุแค่ 22 ปี หลังทราบข่าวจากทางการประกาศว่า ทั้งสองพระองค์จะเสด็จมาเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ อ.รัตภูมิ ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันตื่นเต้น ดีใจ และหาซื้อธงชาติมาประดับหน้าบ้านเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ และเฝ้ารอรับเสด็จบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ ซึ่งเป็นอาคารเรือนไม้ 2 ชั้น มีระเบียงด้านหน้าที่ว่าการอำเภอ โดยทั้งสองพระองค์ได้มายืนโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชนที่มารับเสด็จด้วยพระพักตร์ที่ยิ้มแย้ม บริเวณระเบียงของที่ว่าการอำเภอ โดยมีชาวบ้านโบกธงชาติพลิ้วไปมา และส่งเสียงทรงพระเจริญตลอดเวลาด้วยความตื้นตันใจ
สำหรับบรรยากาศภายในที่ว่าการอำเภอรัตภูมิ หลังเก่าแห่งนี้ ปัจจุบัน ยังมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์เก่าๆ ระหว่างที่ทั้งพระองค์เสด็จมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำใส่กรอบเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีภายในอาคารสภาวัฒนธรรม ภาพพระราชกรณียกิจ รวมทั้งพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบรมวงศานุวงศ์ และภาพพระสูติบัตรประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ยังอยู่ในสภาพดี โดยนำไปขยายใส่กรอบเก็บไว้อย่างดี มีข้อความเป็นภาษาอังกฤษ นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมายัง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2502 จนถึงปัจจุบันนี้ รวมเวลา 57 ปีแล้ว