xs
xsm
sm
md
lg

เมียนมา : รัฐบาลใหม่ต้องทำลายวงจรชั่วร้ายของการปราบปราม และการจับกุมทางการเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพจากแอมเนสตี้
 
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุด เกี่ยวกับการจับกุมด้วยเหตุผลทางการเมืองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของเมียนมา พร้อมเรียกร้องรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งของ “อองซาน ซูจี” เร่งปรับปรุงสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศอย่างเร่งด่วน ชี้ประชาคมโลกมีบทบาทสำคัญที่จะทำให้ภารกิจดังกล่าวสำเร็จได้

รายงานฉบับล่าสุดเรื่อง “New expression meets old repression” เป็นรายงานที่เผยให้เห็นว่า ทางการเมียนมาปราบปรามฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอย่างกว้างขวางในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีการปิดปากผู้แสดงความเห็นต่างด้วยวิธีการ และอำนาจที่หลากหลาย

ซึ่งรายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้ที่ถูกข่มขู่ คุกคาม และคุมขัง มีหลายกลุ่ม ตั้งแต่นักข่าว นักปกป้องสิทธิมนุษยชน นักศึกษา ตลอดจนนักกิจกรรมด้านแรงงานและที่ดิน ทั้งๆ ที่พวกเขาเพียงแค่แสดงความคิดเห็นอย่างสงบ โดยเฉพาะนักโทษทางความคิดที่ถูกคุมขังเกือบ 100 คน ส่วนอีกหลายร้อยคนกำลังอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล

แชมพา พาเทล (Champa Patel) รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า นักโทษทางความคิดจำนวนมากเหล่านี้เพิ่มรอยด่างของสถิติในเมียนมาอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนให้เห็นว่า ข้ออ้างของทางการที่บอกว่า มีการปรับปรุงด้านสิทธิมนุษยชนไม่เป็นความจริง การเพิ่มการปราบปราม และการจับกุมบุคคล ซึ่งเพียงแต่แสดงความเห็นของตนอย่างสงบ เป็นปัญหาที่น่าหนักใจอย่างยิ่ง

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังเรียกร้องไปยังรัฐบาลใหม่ของเมียนมา ซึ่งนำโดยพรรคเอ็นแอลดี และอองซานซูจี ให้ใช้โอกาสสำคัญหลังชนะเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ในการปรับปรุงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศโดยเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวนักโทษทางความคิดโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข การปฏิรูปกฎหมาย และยุติการจับกุมโดยพลการ

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังคงมีการตั้งคำถามถึงความสามารถของพรรคเอ็นแอลดีในการเปลี่ยนแปลงแนวทางสิทธิมนุษยชนของประเทศ เนื่องจากรัฐธรรมนูญเมียนมายังคงให้อำนาจกองทัพในการควบคุมสถาบันหลักหลายแห่ง ดังนั้น ประชาคมโลกจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและผลักดันให้ภารกิจของรัฐบาลใหม่เมียนมาสำเร็จลุล่วงไปได้

“รัฐบาลของพรรคเอ็นแอลดีมีโอกาสทองในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน พวกเขาต้องคว้าโอกาสนี้ไว้อย่างเต็มที่ และการที่จะทำเช่นนั้นได้ พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศ” แชมพา พาเทล กล่าว
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น