ยะลา - ยังแก้ไขไม่ตกปัญหาช้างป่าที่ อ.ธารโต จ.ยะลา ล่าสุด! ตชด. ร่วมกับพลร่ม และชาวบ้านออกลาดตระเวนดูแลพื้นที่ติดตามพฤติกรรม และคอยผลักดันช้างเข้าสู่ป่าธรรมชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดยะลา วานนี้ (21 มี.ค.) ที่ฐานปฏิบัติการตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านกาเต็ง ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ว่า หลังจากที่มีโขลงช้างป่าจำนวนหลายสิบตัว หนีร้อนลงมาจากป่าแนวเทือกเขาบ้านสันติ 2 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา และลงหากิน หาแหล่งน้ำในเขื่อนบางลางเพื่อคลายร้อน จนสร้างความหวาดระแวงให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ โดยเกรงว่าจะเกิดอันตรายจากช้างป่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย ตชด.444 พร้อมกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านสันติ 2 จัดชุดเวรยาม ออกลาดตระเวนตามเส้นทางในหมู่บ้าน และตามเส้นทางที่โขลงช้างป่าลงหากิน และหาแหล่งน้ำในเขื่อนบางลาง
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันลาดตระเวรด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์บนถนนในหมู่บ้าน พร้อมทั้งเดินเท้าในพื้นที่สวนผลไม้ สวนยางพาราตามแนวชายป่าที่เป็นเส้นทางเดินของช้างป่า เพื่อเฝ้าดูพฤติกรรม พร้อมทั้งผลักดันโขลงช้างป่าให้คืนสู่ป่าธรรมชาติ แต่ก็เป็นไปได้เพียงไม่กี่วัน ช้างป่าโขลงดังกล่าวก็ยังคงวนเวียนกลับมาหากิน และลงเล่นน้ำในเขื่อนบางลางอยู่เป็นประจำ
ซึ่งในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่วม และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 444 พร้อมด้วยชาวบ้านก็ยังคงจัดชุดออกลาดตระเวนเฝ้าระวังช้างป่าตามปกติ โดยพบเพียงร่องรอยของเท้าช้าง และมูลช้างในป่าเป็นจำนวนมาก และเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเชื่อว่าโขลงช้างป่าดังกล่าวนั้นมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 17-20 ตัว
นายสุรพงษ์ วงแย้ม ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ม.6 บ้านสันติ 2 เปิดเผยว่า ปัญหาช้างป่าในหมู่บ้านสันติ 2 มีมานานมากแล้ว จนทุกวันนี้ยังหาข้อสรุปในการแก้ไขปัญหาไม่ได้ ชาวบ้านทำได้เพียงเฝ้าระวังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร ที่ตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ และทำการผลักดันช้างให้กลับเข้าป่าธรรมชาติ แต่ช่วงระยะหลังนี้ ช้างป่าลงมาในพื้นที่บ่อยมากขึ้น อาจจะเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดจึงทำให้ช้างป่าลงมาหาแหล่งน้ำในเขื่อนบางลาง ซึ่งทางชาวบ้านบ้านสันติ 2 เอง ก็รอมาตรการจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ และหามาตรการดูแลพื้นที่ต่อไป
ทางด้าน ร.ต.อ.ธีรัตม์ ชูดละออง รองผู้บังคับกองร้อย หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 444 กล่าวว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ร่วมกับชาวบ้านในการลาดตระเวนดูแลเฝ้าระวังพื้นที่เพื่อป้องกันช้างป่า โดยเมื่อพบเจอโขลงช้างป่าก็จะทำการผลักดันด้วยการใช้เสียงประทัด ให้ช้างป่าถอยร่นเข้าไปในป่า ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการประชุมหารือร่วมกันกับหน่วยงานหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และกำลังรอคำสั่งมาตรการในการแก้ไขปัญหาช้างป่าดังกล่าวอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ปัญหาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงนี้ก็เป็นผลทำให้โขลงช้างป่าหนีความแห้งแล้งจากในป่า เนื่องจากปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งขอด ทำให้ช้างป่าต้องลงมาหาแหล่งน้ำเพื่อคลายร้อน ซึ่งทางชาวบ้านที่เฝ้าระวังก็สามารถถ่ายภาพช้างป่าที่ลงเล่นน้ำบริเวณริมน้ำในเขื่อนไว้ได้ และเชื่อว่าช้างป่าโขลงดังกล่าวจะยังคงวนเวียนหากินแบบนี้ไปอย่างต่อเนื่องหากสภาพอากาศยังคงร้อนจัด และยังไม่มีฝนตกลงมาเพื่อให้พื้นที่เกิดความชุ่มชื่น