xs
xsm
sm
md
lg

เอกฉันท์! ชาวบ้านไหนหนัง จ.กระบี่ ยกมือทั้งหมู่บ้านให้รื้อโป๊ะพ้นปากอ่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระบี่ - ชาวบ้านไหนหนังยกมือทั้งหมู่บ้านผ่านเวทีประชาคมฯ ขอให้ประมงจังหวัดรื้อโป๊ะออกจากปากอ่าว หลังพบมีการทำลายล้างสัตว์น้ำวัยอ่อนอย่างรุนแรง ระบุ 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นลูกปลาวัยอ่อน ประกาศปิดอ่าวทุกปีก็ไร้ความหมาย

วันนี้ (19 มี.ค.) นายแสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายเจริญไชย ศรีสุวรรณ์ หัวหน้าศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน และเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่บ้านไหนหนัง ม.3 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อทำประชาคมด้านการบริหารทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืนของอ่าวบ้านไหนหนัง และสอบถามถึงความต้องการของชาวบ้านในเรื่องต่างๆ ที่ต้องการอยากให้กรมประมงช่วยเหลือสนับสนุน โดยมี นายสุชา วันศุกร์ ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านไหนหนังเข้าร่วมจำนวนมาก จัดขึ้นที่บริเวณมัสยิดบ้านไหนหนัง

นายแสน ศรีงาม ประมงจังหวัดกระบี่ กล่าวภายหลังจากการทำประชาคมฯ ว่า ในเวทีประชาคมของชาวบ้านไหนหนัง ได้มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านยกมือสนับสนุนขอให้ประมงจังหวัดกระบี่ ทำเร่งด่วนก็คือ ขอให้รื้อถอนโป๊ะที่วางดักจับปลาอยู่บริเวณปากอ่าวบ้านไหนหนัง ที่มีอยู่กว่า 200 โป๊ะออกทั้งหมด เนื่องจากชาวบ้านพบว่าเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ทำลายล้างสัตว์น้ำอย่างรุนแรง ตั้งแต่ตัวขนาดเล็กสุด ไปจนถึงขนาดใหญ่ ส่งผลทำให้จำนวนปริมาณสัตว์น้ำลดน้อยลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งในเบื้องต้นได้รับเรื่องไว้แล้ว

ด้านชาวประมงพื้นบ้านไหนหนัง รายหนึ่งกล่าวว่า สำหรับโป๊ะเป็นเครื่องมือทำการประมงที่ทำลายล้างสัตว์น้ำทะเลอย่างรุนแรง ไม่น้อยไปกว่าอวนรุน อวนลาก และอยู่ประจำที่ วางดักจับสัตว์น้ำตลอดเวลาทั้งกลางวันกลางคืน ทั้งเดือน ทั้งปี ไม่มีการเคลื่อนย้ายเหมือนอย่างเครื่องมือทำการประมงชนิดอื่นๆ จนกว่าจะพังเสียหายซึ่งใช้เวลานานหลายปี เมื่อถึงเวลาก็มาจับสัตว์น้ำที่ติดอยู่ในถุงอวนกลับไปขาย และสัตว์น้ำที่จับได้แต่ละครั้งส่วนใหญ่จะเป็นลูกปลาตัวเล็กๆ วัยอ่อน เนื่องจากอยู่ใกล้ป่าชายเลนแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำวัยอ่อนอย่างดี

เชื่อว่าหากไม่รื้อโป๊ะออกจากทะเล ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศปิดอ่าวห้ามจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูปลามีไข่วางไข่สักกี่ครั้งก็ไม่ทำให้สัตว์น้ำเพิ่มปริมาณมากนัก และมีแนวโน้มลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่อง เพราะปลาส่วนใหญ่เมื่อเข้ามาวางไข่ใกล้ชายฝั่ง กลับออกไปก็ต้องติดโป๊ะอยู่ดี และพบว่าบางโป๊ะสามารถจับปลาได้แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 2 ตัน ส่วนใหญ่เป็นลูกปลาตัวเล็กๆ กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ชาวประมงบ้านไหนหนังจึงต้องเรียกร้องผ่านเวทีประชาคมฯ ให้มีการรื้อถอนโป๊ะออกจากอ่าว เพื่ออนุรักษ์สัตว์น้ำอย่างยั่งยืน ซึ่งอยู่ที่ทางราชการกล้าตัดสินใจรื้อหรือไม่ ส่วนชาวบ้านพร้อมเต็มที่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น