ระยอง - พ่อเมืองระยอง นำทีม ผบ.มทบ.14 และหน่วยงานเกี่ยวข้องนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และร้านค้าที่บุกรุกบริเวณชายหาดแหลมเจริญ หลังครบกำหนดการผ่อนผันให้ดำเนินการรื้อถอนตามนโยบายของ คสช. และรัฐบาล ในการจัดระเบียบ และคืนพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (29 ก.พ.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย พล.ต.สิงห์ทอง หมีทอง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 พ.อ.ภพอนันต์ เหลืองภานุวัฒน์ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 14 นายอินทรีย์ เกิดมณี นายอำเภอเมืองระยอง และนายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีนครระยอง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่เทศบาลนครระยอง กว่า 50 นาย เข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งร้านค้าที่บุกรุกบริเวณชายหาดแหลมเจริญ อำเภอเมืองระยอง หลังได้ทำการปิดประกาศกำหนดรื้อถอนอาคารบริเวณถนนเลียบชายฝั่ง ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองระยอง เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อาศัยข้อความตามที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นเทศบาลนครระยอง ได้มีคำสั่งแจ้งให้เจ้าของ หรือผู้ครอบครองอาคารรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบริเวณถนนเลียบชายฝั่ง ตำบลปากน้ำ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช. และรัฐบาล ในการจัดระเบียบ และคืนพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชน ประกอบกับมาตรา 43(2) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 เจ้าพนักงานท้องถิ่นเทศบาลนครระยอง จึงประกาศกำหนดการรื้อถอนอาคารดังกล่าว โดยกำหนดให้พนักงานเจ้าหน้าที่จะเข้าดำเนินการรื้อถอน ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 เป็นต้นไป
และการดำเนินการรื้อถอนดังกล่าวเป็นการรื้อถอนแบบหยาบ โดยพนักงานเจ้าหน้าที่จะนำเศษวัสดุจากการรื้อถอนไปเก็บไว้ที่บริเวณบ่อขยะของเทศบาลฯ
โดยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ได้ครบกำหนดการผ่อนผันเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก็พบว่ามีผู้ประกอบการบางส่วนได้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการที่ไม่ยอมรื้อถอนอีกจำนวน 30 ราย เจ้าหน้าที่จึงทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทันที และในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอยู่นั้นได้มีชาวบ้านจำนวน 30 ราย ที่ไม่ยอมรื้อถอน นำโดย นายละม่อม บุญยงค์ ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านปากน้ำบ้านเรา รวมตัวกันที่บริเวณศูนย์แสดงสินค้าตำบลปากน้ำ เพื่อขอร้องให้เจ้าหน้าที่ผ่อนผันการรื้อถอนดังกล่าว เนื่องจากไม่มีที่ทำกิน
แต่นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้ขอให้ส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยเพื่อหาทางออกร่วมกัน พร้อมกล่าวว่า เบื้องต้น จำเป็นต้องรื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกไปก่อน ตามคำสั่งจัดระเบียบชายหาดของ คสช. ส่วนทางออกขณะนี้ได้มีการพูดคุยกันแล้ว ซึ่งประชาชนยอมรับได้ คือ จะมีการจัดโซนนิ่งเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ซึ่งอาชีพประมงจำเป็นต้องมีอยู่ และได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ เทศบาลนครระยอง ร่วมหารือกับกลุ่มประมง กลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายหาดเพื่อร่วมกันจัดทำแบบแปลนแผนผังให้แล้วเสร็จ
โดยเฉพาะพื้นที่ตากหมึกแปรรูปอาหารทะเล ที่ในอนาคตจะมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวประมง ส่วนร้านค้าของที่ระลึกจะต้องขึ้นมารวมกันที่ศูนย์แสดงสินค้าตำบลปากน้ำจุดเดียวทั้งหมด ส่วนที่มีการบุกรุกปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัยจำเป็นต้องรื้อออกทั้งหมด โดยไม่มีข้อต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
ด้าน นายละม่อม บุญยง ประธานกลุ่มประมงปากน้ำบ้านเรา กล่าวว่า อยากให้ทางจังหวัดคำนึงถึงความเดือดร้อนของชาวประมงที่ไม่มีที่ทำมาหากิน พร้อมวอนให้หาทางออกด้วยการผ่อนผันให้จังหวัดจัดหาพื้นที่รองรับก่อนที่จะเข้ารื้อถอน ซึ่งชาวบ้านไม่ได้คัดค้านการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด