ยะลา - กยท.ยะลา ประกาศเตรียมปิดจุดรับซื้อยางตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ในวันที่ 21 มี.ค.59 เนื่องจากในช่วงนี้ยางกำลังเข้าสู่ฤดูผลัดใบ ก่อนที่จะเปิดอีกครั้งในฤดูเปิดกรีดใหม่ เพราะยางที่รับซื้อยังได้ไม่ครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในโครงการ
วันนี้ (18 มี.ค.) นายสุรชัย บุญวรรโณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางจังหวัดยะลา ได้ประกาศให้จุดรับซื้อยางรัฐบาลตามโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ปิดจุดรับซื้อยางตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค.59 เป็นต้นไป เนื่องจากในช่วงนี้ยางกำลังเข้าสู่ฤดูผลัดใบ ทำให้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ น้อยและบางวันก็ไม่มีเลย ประกอบกับราคายางในท้องตลาดได้ปรับตัวสูงขึ้น เกษตรกรจึงหันนำยางไปขายให้แก่พ่อค้าในท้องถิ่นเป็นส่วนใหญ่ เพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และสามารถรับเงินได้วันต่อวัน แต่จะเปิดจุดรับซื้ออีกครั้งในฤดูเปิดกรีดใหม่
นายสุรชัย บุญวรรโณ กล่าวว่า ในช่ว 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ จุดรับซื้อยางโครงการส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานภาครัฐ ในพื้นที่อำเภอรามัน และอำเภอบันนังสตา รับซื้อยางได้น้อยลงมาก บางวันไม่มีเกษตรกรนำยางมาขายเลย เนื่องจากกำลังเข้าสู่ฤดูยางผลัดใบ และประกอบกับราคายางในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้น จึงทำให้เกษตรกรนำยางไปขายแก่พ่อค้าในท้องถิ่นมากกว่า เพราะขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถรับเงินได้เลย แต่ก็จะเปิดจุดรับซื้ออีกครั้งในฤดูเปิดกรีดใหม่ เพราะยางที่รับซื้อยังได้ไม่ครบตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในโครงการ
“ซึ่งในตอนนี้ตั้งแต่เปิดจุดรับซื้อยางมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.59 จนถึงวันนี้รวมทั้งประเทศ กยท.สามารถรับซื้อยางได้แค่ 2,800 กว่าตัน ซึ่งยังยังจะต้องซื้อกันอีกหลายเดือนเพื่อให้ครบ 1 แสนตัน และในอีกไม่ช้าโครงการขายยางให้แก่จีน (กลุ่มบริษัท Sinochem) โดยรัฐบาลต่อรัฐบาล (GtoG) ก็กำลังเริ่ม โดยจะมีการส่งมอบครั้งแรกในเดือนมีนาคมนี้ และจะต้องส่งต่อเนื่องให้ครบติดต่อกันจำนวน 12 เดือน เดือนละประมาณ 16,000 กว่าตัน ซึ่ง กยท.จะต้องรับซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง กลุ่ม/สหกรณ์ เพื่อส่งยางให้บริษัทแปรรูปและส่งให้แก่จีน โดยโครงการขายยางให้แก่จีนได้ทำสัญญากันไว้ 200,000 ตัน ซึ่งแบ่งเป็นยางแผ่นรมควันอัดก้อน จำนวน 150,000 ตัน และยางแท่ง จำนวน 50,000 ตัน ซึ่งถือว่าพนักงานการยางแห่งประเทศไทย จะต้องทำงานหนักกันอีกครั้ง” นายสุรชัย บุญวรรโณ กล่าว
สำหรับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางที่ยังขายไม่ครบตามจำนวนที่มีสิทธิ และยังไม่มีความเดือดร้อนทางด้านการเงินก็ขอให้เก็บยางไว้ก่อน และให้นำมาขายในฤดูเปิดกรีดหน้า ในฤดูเปิดกรีดหน้าอาจจะมีการเปิดจุรับซื้อยางเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับทั้ง 2 โครงการฯ ให้สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์ และเปิดโอกาสให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางสามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างทั่วถึง