สตูล - เผย “ผู้ตรวจ ก.ยุติธรรม” ยื่นมือเข้าช่วย 3 ผู้ต้องการชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะแล้ว ทั้งการต่อสู้คดี และประกันตัว แต่ต้องรอขั้นตอนอนุมัติจากกองทุนยุติธรรม ขณะที่แม่ และญาติๆ แห่ขึ้นจากเกาะบุกไปให้กำลังใจผู้ต้องหาถึงเรือนจำ ยันเร่งระดมเงินขอประกันตัวให้ได้เร็วที่สุดก่อนพึ่งกองทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 มี.ค.) นางแซ่หนา ชีแล อายุ 62 ปี พร้อมด้วยญาติๆ ที่เป็นชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ได้เดินทางไปยังเรือนจำ จ.สตูล เพื่อขอเข้าเยี่ยม 3 ผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังเนื่องจากไม่มีเงินประกันตัวในฐานความผิดร่วมกันบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น เพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด หรือแต่บางส่วน หรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362 และ 364
ทั้งนี้ นางสลวย หาญทะเล 1 ใน 3 ของผู้ต้องหายังคงมีสีหน้ายิ้มด้วยความดีใจที่ได้เจอหน้านางแซ่หนา ผู้เป็นแม่ และญาติๆ โดยได้มีการพูดคุยเพื่อให้คลายความกังวลว่า ขณะนี้หลายคนกำลังเร่งหาทางช่วยเหลือในการยื่นขอประกันตัว ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 2 คนก็มีกำลังใจดี และรอการช่วยเหลือจากญาติๆ เพื่อยื่นหลักทรัพย์ในการขอปล่อยตัวชั่วคราวเช่นกัน
น.ส.ปิติกาญจน์ สิทธิเดช ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายธีรภัทร รอดความทุกข์ หัวหน้าสำงานยุติธรรม จ.สตูล ได้เดินทางเข้าเยี่ยมเยียนเรือน จ.สตูล และได้ร่วมพูดคุยคดีชาวเลจากเกาะหลีเป๊ะที่ถูกคุมขังด้วย พร้อมกันนี้ ได้แสดงท่าทีให้การช่วยเหลือเต็มที่ต่อทั้ง 3 ผู้ต้องหา
“โดยกระทรวงยุติธรรม ทำงานร่วมกับสำนักงานยุติธรรม จ.สตูล พร้อมประสานงานกับทางทนายความที่เป็นผู้ดูแลเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ยากจนอยู่แล้ว หากได้รับความเดือดร้อนแบบนี้ โดยจะมีการช่วยเหลือทางด้านการประกันตัว การเดินทางของญาติผู้ต้องฝากขัง การดำเนินคดี การดำเนินคดีในชั้นศาล โดยจะมีการจ่ายเงินช่วยเหลือในเรื่องของการประกันตัวผู้ต้องฝากขังรายละไม่เกิน 500,000 บาท” น.ส.ปิติกาญจน์ กล่าวและว่า
แต่เนื่องด้วยตอนนี้ทางสำนักงานยุติธรรม จ.สตูล ได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่โดนกล่าวหาว่าบุกรุกเขตอุทยานฯ จึงต้องรอการอนุมัติงบประมาณจากทางอนุกรรมการที่จะใช้การประกันตัวไม่เกิน 7 วัน พร้อมทั้งให้คำชี้แนะต่อทนายอาสาที่เข้ามาช่วยชาวเลชุดนี้ในการดำเนินการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
ด้าน นางแสงโสม หาญทะเล ญาติของชาวเลจากเกาะหลีเป๊ะที่ตกเป็นผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนได้เตรียมระดมเงินจากญาติพี่น้องชาวเลด้วยกันแล้ว เพื่อนำมาใช้ประกันตัวระหว่างรอความช่วยเหลือจากสำนักงานยุติธรรม จ.สตูล ที่อาจจะติดขัดในเรื่องกระบวนการ