xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.อ้างไม่มีการรื้อถอนศาสนสถานในพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทน กฟผ. แถลงยืนยันไม่มีการรื้อถอนกุโบร์ หรือมัสยิดในพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพียงแต่มีกลุ่มคนบางส่วนนำไปขยายความปลุกระดมสร้างความขัดแย้งให้แก่คนในพื้นที่

วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มัสยิดกลาง จ.สงขลา พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยประธาน และรองประธานประจำคณะกรรมการอิสลามประจำ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย จ.สงขลา จ.สตูล จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส รวมทั้ง นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ร่วมประชุม และแถลงชี้แจงกรณีข้อวิตกกังวลของชุมชนมุสลิมในพื้นที่ ม.4 บ้านคลองประดู่ อ.เทพา จ.สงขลา เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายกุโบร์ หรือสุสาน รวมทั้งมัสยิด ซึ่งติดอยู่ในแนวเขตพื้นที่สำรวจโครงการพัฒนาโรงฟ้าถ่านหินเทพา และมีบุคคลบางกลุ่มนำไปขยายความจนเกิดเป็นประเด็นความขัดแย้งใหญ่โตอยู่ในขณะนี้

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ตั้งคณะกรรมการทำงานเข้าร่วมติดตาม และตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ร่วมกับ กฟผ. ซึ่งจากการหารือร่วมกันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จะไม่มีการรื้อถอนกุโบร์ หรือมัสยิดที่ตั้งอยู่ในแนวเขตพื้นที่สำรวจโครงการพัฒนาโรงฟ้าถ่านหินเทพาอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดต่อหลักการของศาสนาอิสลาม และการก่อสร้าง หรือดำเนินโครงการใดๆ ก็ต้องให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในพื้นที่ได้ด้วย ซึ่งความขัดแย้ง รวมทั้งกระแสการการต่อต้านที่เกิดขึ้นนั้นมาจากบุคคลบางกลุ่มที่เอาประเด็นที่ละเอียดอ่อนดังกล่าวไปขยายความ และนำชื่อบุคคลระดับสูงในแวดวงศาสนามาทำการแอบอ้างให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อปลุกระดมคนเท่านั้น

ด้าน นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 กฟผ. กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่โครงการเกือบ 3 พันไร่ มีกุโบร์ และมัสยิดอยู่ในแนวเขตประมาณ 3 แห่ง ซึ่งทาง กฟผ.ไม่ได้มีแนวคิดที่จะรื้อถอนแต่อย่างใด และการก่อสร้างโครงการก็ไม่ได้ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วเป็นตัวโรงไฟฟ้าทั้งหมด เพราะโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นต้องอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้ และทาง กฟผ. ยังยินดีที่จะร่วมอนุรักษ์ศาสนสถานที่สำคัญ และมีคุณค่าทางจิตใจเหล่านี้เอาไว้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ ทาง กฟผ. เคยทำหนังสือผู้นำศาสนาทุกแห่งในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค.58 ที่ผ่านมา
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น