ปัตตานี - “พล.อ.สุรยุทธ์” องคมนตรีร่วมงาน “เทศกาลนานาชาติฮาลาลชายแดนใต้” ชี้การศึกษาเท่านั้นเป็นทางออกของการแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดสันติสุขชายแดนใต้
วันนี้ (9 ก.ย.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงาน “โครงการเทศกาลนานาชาติฮาลาลชายแดนใต้” (Southern Border Halal International Fair, SHIF 2015) ณ ม.ราชภัฏยะลา จ.ยะลา ซึ่งจัดขึ้นเป็นวันที่ 2 แล้ว โดยมี นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. นายสามารถ วราดิศัย ผู้ว่าราชการ จ.ยะลา ดร.วินัย ดะห์ลัน ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้การต้อนรับ และมีคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ผู้นำศาสนาจาก 39 จังหวัด เข้าร่วมประมาณ 3,000 คน
พล.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กล่าวตอนหนึ่งของพิธีเปิดว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของปวงชนชาวไทยทรงห่วงใยพสกนิกรมุสลิมในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อยู่เสมอ พระองค์ทรงมีพระสหายเป็นมุสลิมในพื้นที่ 5 จังหวัด ทั้งทรงมีโครงการในพระราชดำริมากมายในพื้นที่ชายแดนใต้ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ท่านสอดคล้องต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านมุสลิม ที่มุ่งเน้นวัฒนธรรมฮาลาลที่ผสมผสานศาสนาเข้ากับการพัฒนาศักยภาพที่เป็นไปตามหลักการในศาสนาอิสลาม ใช้ฮาลาลเป็นเครื่องมือการพัฒนาบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำชุมชนเหล่านี้ได้มารวมตัวกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของปวงชนชาวไทยทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภกแก่พสกนิกรทุกศาสนา อาศัยอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา รัฐบาลทุกชุด องค์กรภาครัฐทุกแห่ง รับเป็นนโยบายตามพระราชประสงค์ที่จะดูแลความอยู่ดีมีสุขของประชากรทุกคน ในกรณีของอิสลาม ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรในศาสนาอิสลาม พ.ศ.2540 ที่ส่วนหนึ่งกำหนดอำนาจหน้าที่ให้สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ดูแลกิจการฮาลาลในประเทศ
นอกจากนี้ ใน พ.ศ.2546 รัฐบาลให้การสนับสนุนการจัดตั้งสถาบันมาตรฐานฮาลาลแห่งประเทศไทย ภายใต้คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล ภายใต้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นับเป็น 2 หน่วยงานที่สนับสนุนงานด้านวิชาการ ทั้งวิทยาศาสตร์ และการบริหารจัดการ
ข้าพเจ้าจึงมีความยินดีที่ 2 องค์กรทางวิชาการดังกล่าวได้เข้าร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดงานที่เน้นการพัฒนาที่สอดคล้องต่อวัฒนธรรมของชุมชนในพื้นที่ในครั้งนี้
พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งในช่วงปาฐกถาพิเศษ “เดินหน้าประเทศไทยสู่สันติภาพชายแดนใต้” ว่า ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องร่วมมือเพื่อให้ปัญหาหมดไป ปัจจุบัน ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังเกิดขึ้น และเมื่อไม่กี่วันก็เป็นปัญหาใหม่ที่มีการใช้ความรุนแรง ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นในที่สาธารณะ ซึ่งเราต้องช่วยกันแก้ไข และปัจจุบันพวกเราได้พยายามแก้ไขปัญหาในท้องถิ่น เช่น ฮาลาล การรักษาพยาบาล การศึกษา
พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใย และมีพระราชดำริให้พื้นที่ต่างๆ มีมาตรฐานการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ในหลวงทรงห่วงใยเยาวชนให้ได้รับการพัฒนาที่เท่าเทียม ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ได้ดำเนินงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมมือกับ ศอ.บต. และ ม.อ.ปัตตานี พัฒนาเพิ่มมาตรฐานการศึกษา ซึ่งจะได้หารือร่วมกันในรายละเอียดต่อไป
โดยยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อการศึกษา ถ้ามาตรฐานการศึกษาดีขึ้นจะสามารถทำงานในอาเซียนซึ่งจะประกาศในปลายปีนี้ และสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ เพราะประชาชนในอาเซียนมีความแตกต่างด้านวัฒนธรรม ประเพณี สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ความเอื้อเฟื้อและการแบ่งปันกัน เพราะเป็นวัฒนธรรม ประเพณีของคนเอเชียตะวันออก และการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเพราะการศึกษาเท่านั้นที่จะเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหา
องคมนตรี ยังกล่าวอีกด้วยว่า สถานการณ์ของโลกทุกวันนี้มีแต่ความรุนแรง ข่าวที่เกิดขึ้นเราน่าจะมาพิจารณาว่าจะไม่ให้เกิดความรุนแรงได้อย่างไร ผู้ที่ใช้ความรุนแรงจุดจบไม่ได้สวยงาม แต่สิ่งที่จะต้องทำคือ คำกล่าวที่ท่านพูดอยู่ “ขอความสันติสุข” และวิธีการแก้ปัญหามีทางออกอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือ การศึกษา