ชุมพร - ฝ่ายปกครอง ทหาร บุกจับแรงงานเถื่อนชาวเขมรเกือบร้อยคน ในแคมป์ก่อสร้างอาคารเรียนสถาบันชื่อดังที่ชุมพร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 ก.พ.) นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้ามาทำงานก่อสร้างอาคารเรียนในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ชุมพร ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงสั่งการให้ นายกิติพงศ์ โสมณะ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอปะทิว สนธิกำลังร่วมกับ พ.ท.อนันต์ ลือชัย หัวหน้ากองยุทธการ บก.ควบคุมมณฑลทหารบก ที่ 44 ชุมพร ร.ท.ธีระพร บุญซื่อ หัวหน้าชุดประจำพื้นที่ร้อยมณฑลทหารบก ที่ 44 ร.ท.เสน่ห์ นุ่มพรมทอง รองหัวหน้าชุดประจำพื้นที่ร้อยมณฑลทหารบก ที่ 44 ร.ต.อ.บุญเลิศ แอบผักแว่น รอง สว.ตม.จ.ระนอง กำลังทหาร และ อส.เข้าตรวจสอบ
โดยจุดรับแจ้งอยู่กลางสวนปาล์มของสถาบันดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องพักชั่วคราวของคนงานลักษณะสร้างแถวยาว 2 แถวขนานกัน พบแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมเรียกแรงงานทุกคนออกมารวมกันเพื่อทำการตรวจสอบเอกสารการเข้ามาทำงาน พบมีจำนวน 117 คน เป็นชาวกัมพูชา ในเบื้องต้นพบว่าเป็นแรงงานชาย-หญิงต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 70 คน โดยแยกเป็นชาย 44 คน หญิง 26 คน เป็นแรงงานต่างด้าวขออนุญาตทำงานในพื้นที่จังหวัดอื่น 9 คน แยกเป็นชาย 6 คนหญิง 3 คน และแรงงานต่างด้าวถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 38 คน แยกเป็นชาย 24 คน หญิง 14 คน
เจ้าหน้าที่จึงแยกควบคุมแรงงานที่ผิดกฎหมายทั้งหมด พร้อมด้วย นายสิทธิศักดิ์ จรูญศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/20 ม.8 ต.บางเจ้าชา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งรับเป็นหัวหน้าดูแล และคุมแรงงานต่างด้าวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยควบคุมตัวไปสอบปากคำและทำการคัดแยกเพื่อบันทึก และแจ้งข้อหาต่อชาวกัมพูชาฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและแจ้งข้อหาต่อ นายสิทธิศักดิ์ ฐานให้ที่พักพิงกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และเป็นธุระจัดจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว เปิดเผยว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมดเป็นแรงงานก่อสร้างของนายจ้างรายหนึ่งที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพราะต้องขยายผลฐานความผิดฐานจัดจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายจ้างรายดังกล่าวได้รับช่วงเหมาก่อสร้างต่อมาจาก บริษัท เอ็นไอดี เอ็นจิเนียริ่ง ซิสเต็ม จำกัด ในวงเงิน 100 ล้านเศษ เพื่อทำการก่อสร้างอาคารเรียน 3 หลัง และได้ทำการก่อสร้างมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว มีการหมุนเวียนแรงงานทั้งถูก และผิดกฎหมายอยู่ตลอด ทำให้ชาวบ้านในละแวกเกิดหวาดผวา และหวั่นกลัวว่า แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายอาจจะเข้ามาก่อเหตุได้ จึงได้แจ้งมายังอำเภอจึงเป็นที่มาของการสนธิกำลังกับทหารใช้มาตรการตาม ม.44 กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเข้าทำการจับกุมดังกล่าว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (16 ก.พ.) นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้ามาทำงานก่อสร้างอาคารเรียนในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในตัวเมือง จ.ชุมพร ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลชุมโค อ.ปะทิว จ.ชุมพร จึงสั่งการให้ นายกิติพงศ์ โสมณะ ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอปะทิว สนธิกำลังร่วมกับ พ.ท.อนันต์ ลือชัย หัวหน้ากองยุทธการ บก.ควบคุมมณฑลทหารบก ที่ 44 ชุมพร ร.ท.ธีระพร บุญซื่อ หัวหน้าชุดประจำพื้นที่ร้อยมณฑลทหารบก ที่ 44 ร.ท.เสน่ห์ นุ่มพรมทอง รองหัวหน้าชุดประจำพื้นที่ร้อยมณฑลทหารบก ที่ 44 ร.ต.อ.บุญเลิศ แอบผักแว่น รอง สว.ตม.จ.ระนอง กำลังทหาร และ อส.เข้าตรวจสอบ
โดยจุดรับแจ้งอยู่กลางสวนปาล์มของสถาบันดังกล่าว ซึ่งเป็นห้องพักชั่วคราวของคนงานลักษณะสร้างแถวยาว 2 แถวขนานกัน พบแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวพร้อมเรียกแรงงานทุกคนออกมารวมกันเพื่อทำการตรวจสอบเอกสารการเข้ามาทำงาน พบมีจำนวน 117 คน เป็นชาวกัมพูชา ในเบื้องต้นพบว่าเป็นแรงงานชาย-หญิงต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 70 คน โดยแยกเป็นชาย 44 คน หญิง 26 คน เป็นแรงงานต่างด้าวขออนุญาตทำงานในพื้นที่จังหวัดอื่น 9 คน แยกเป็นชาย 6 คนหญิง 3 คน และแรงงานต่างด้าวถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 38 คน แยกเป็นชาย 24 คน หญิง 14 คน
เจ้าหน้าที่จึงแยกควบคุมแรงงานที่ผิดกฎหมายทั้งหมด พร้อมด้วย นายสิทธิศักดิ์ จรูญศรี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/20 ม.8 ต.บางเจ้าชา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งรับเป็นหัวหน้าดูแล และคุมแรงงานต่างด้าวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยควบคุมตัวไปสอบปากคำและทำการคัดแยกเพื่อบันทึก และแจ้งข้อหาต่อชาวกัมพูชาฐานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและแจ้งข้อหาต่อ นายสิทธิศักดิ์ ฐานให้ที่พักพิงกับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และเป็นธุระจัดจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอปะทิว เปิดเผยว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมดเป็นแรงงานก่อสร้างของนายจ้างรายหนึ่งที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ เพราะต้องขยายผลฐานความผิดฐานจัดจ้างแรงงานโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายจ้างรายดังกล่าวได้รับช่วงเหมาก่อสร้างต่อมาจาก บริษัท เอ็นไอดี เอ็นจิเนียริ่ง ซิสเต็ม จำกัด ในวงเงิน 100 ล้านเศษ เพื่อทำการก่อสร้างอาคารเรียน 3 หลัง และได้ทำการก่อสร้างมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว มีการหมุนเวียนแรงงานทั้งถูก และผิดกฎหมายอยู่ตลอด ทำให้ชาวบ้านในละแวกเกิดหวาดผวา และหวั่นกลัวว่า แรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมายอาจจะเข้ามาก่อเหตุได้ จึงได้แจ้งมายังอำเภอจึงเป็นที่มาของการสนธิกำลังกับทหารใช้มาตรการตาม ม.44 กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเข้าทำการจับกุมดังกล่าว