ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ทอท.ทดสอบ First Technical Flight ของอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ครั้งแรกผ่านฉลุย เตรียมพัฒนาเฟส 3 รับผู้โดยสาร 18 ล้านคนอีก 5 ปีข้างหน้า
วันนี้ (14 ก.พ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จัดให้มีการทดสอบระบบด้านเทคนิคเที่ยวบินแรก ในส่วนของเที่ยวบินขาเข้า หรือ First Technical Flight ณ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมี นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. พร้อมด้วย นางมนฤดี เกตุพันธ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต ภาครัฐ และเอกชนร่วมสังเกตการณ์ โดยเที่ยวบินแรกที่เข้ามาใช้บริการในครั้งนี้คือ เครื่องบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 609 เดินทางจากฮ่องกง-ภูเก็ต โดยมีผู้โดยสารร่วมเดินทาง จำนวน 374 คน
นายนิตินัย กล่าวว่า ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) เป็นท่าอากาศยานภายใต้การบริหารงานของ ทอท.ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภาคใต้ โดย ทอท.ได้กำหนดตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ (Strategic Positioning) ให้ ทภก.เป็น “Gateway to the Andaman” โดยในปีงบประมาณ 2558 ทภก.ให้บริการเที่ยวบิน 82,000 เที่ยวบิน และผู้โดยสาร 12,538,042 คน ซึ่งสูงกว่าปีงบประมาณ 2557 คิดเป็นร้อยละ10.07 และ 11.19 ตามลำดับ และในไตรมาสแรกของปี 2559 (ตุลาคม 2558-ธันวาคม 2558) ให้บริการเที่ยวบิน 23,055 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 3,385,527 คน สูงกว่าระยะเดียวกันของปีงบประมาณ 2558 ร้อยละ 13.59 และ 10.47 ตามลำดับ และปัจจุบัน ทภก.รองรับเที่ยวบินประมาณ 250 เที่ยวบินต่อวัน มีผู้โดยสารใช้บริการเป็นจำนวนกว่า 50,000 คนต่อวัน ขณะที่มีสายการบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศทั้งหมด 53 สายการบิน จากการที่ปริมาณการจราจรทางอากาศของ ทภก.เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทอท.ได้มีโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ประกอบด้วย งานก่อสร้างทางขับ และลานจอดท่าอากาศยาน งานก่อสร้างปรับปรุงขยายระบบเติมน้ำมันอากาศยานทางท่อ งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ (ซึ่งจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 5 ล้านคนต่อปี) งานก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ งานก่อสร้างอาคารสำนักงาน งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ งานก่อสร้างอาคารคลังสินค้า งานก่อสร้างอาคารบริการลานจอด และอุปกรณ์ภาคพื้น งานก่อสร้างอาคารสถานีดับเพลิงและกู้ภัย งานก่อสร้างระบบถนนภายในท่าอากาศยาน งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ท่าอากาศยานและงานก่อสร้างอาคารสำนักงานส่วนบำรุงรักษา และคลัง ทภก.โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มศักยภาพของ ทภก.ให้รองรับผู้โดยสารได้จาก 6.5 ล้านคน เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี
นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่แล้วเสร็จเกือบสมบูรณ์ และเพื่อให้อาคารผู้โดยสารดังกล่าวเปิดให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทอท.จึงมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสาร ทภก.หลังใหม่ (Operational Readiness and Airport Transfer : ORAT) เพื่อเตรียมความพร้อมองค์ประกอบทุกด้านที่เกี่ยวข้อง เช่น ความพร้อมของการปฏิบัติการ การบริการสิ่งอำนวยความสะดวก บุคลากรของ ทอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการปฏิบัติงาน และประกอบการในอาคารผู้โดยสาร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และมีประสิทธิภาพ และได้กำหนดทดสอบระบบด้านเทคนิค
หลังจากนั้น จะมีการทดสอบระบบโดยใช้เวลาอีก 60 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าหากมีการย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศไปให้บริการยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ จะมีความสมบูรณ์ และสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง โดย ทอท.ได้กำหนดเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่อย่างเป็นทางการได้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2559
นายนิตินัย กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม หลังจากที่การทดสอบระบบเสร็จอีก 2 เดือนข้างหน้าก็จะมีการพัฒนาเฟสที่ 2 คือ ตัวอาคารผู้โดยสารที่มีอยู่เดิม ซึ่งจะใช้เวลาในการพัฒนาปรับปรุง จำนวน 300 กว่าวัน ก็จะทำให้อาคาดังกล่าวสามารถรองรับผู้โดยสรได้เพิ่มขึ้น ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งจะพัฒนาสนามบินภูเก็ตให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ จำนวน 18 ล้านคน ในอีก 5 ปีนั้นทาง ทอท.จะดำเนินการต่อไป ซึ่งในส่วนของความสามารถของสนามบินภูเก็ตไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 18 ล้านคนได้ ในอนาคตอาจจะมีแผนขยายสนามบินเพิ่มแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแผนการพัฒนาจะเป็นอย่างไร ส่วนทางวิ่งไม่สามารถขยายได้แล้ว เครื่องบินใหญ่สุดที่สามารถรองรับได้คือ เครื่องบินโบอิ้ง 777-300