ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบนโยบายขับเคลื่อนการทำงานส่งเสริมเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันเป็นต้นแบบคลัสเตอร์คุณภาพ สู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่ห้องประชุมคอซิมบี้ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ พร้อมด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยว ประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ครั้งที่ 1/2559 ซึ่งประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง และสตูล โดยมี นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายภัคพงค์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาพร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชนประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้กล่าวมอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุม ว่า ขอชื่นชมการทำงานของพื้นที่เขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน เพราะมีกิจกรรมที่หลากหลายแก่นักท่องเที่ยว นอกจากชายหาด ยังมีเรื่องสปอร์ต วัฒนธรรม แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอย่างเช่น สนามบิน ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีแผนพัฒนาการท่องเที่ยวระยะยาว ยุทธศาสตร์ 20 ปี โดยอนาคตวางเป้าหมายประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวปลอดภัย สมดุล ยั่งยืน และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาคที่คนทั่วโลกอยากมาเยือน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในท้องถิ่น ภูมิภาค ส่วนกลาง และขยายสู่ประเทศเพื่อนบ้าน (ASEAN CONNECT)
ทั้งนี้ ในปี 2559 ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 2.3 ล้านล้านบาท โดยต้องรักษาฐานนักท่องเที่ยวเดิมไว้ ซึ่งมี 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มแรกคือ กลุ่มทั่วไป และกลุ่มที่ใช้จ่ายน้อย และกลุ่มที่สอง คือกลุ่มคุณภาพ โดยในกลุ่มจังหวัดอันดามันเป็นกลุ่มคุณภาพอยู่แล้วไม่ต้องกังวล เพียงแต่จะเพิ่มคุณภาพอย่างไร ทั้งนี้ ไม่อยากให้โจมตีกัน เนื่องจากจะกลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ แต่ทำอย่างไรจึงจะแก้จุดอ่อนที่มีอยู่ โดยอาจจะเพิ่มกำลังคนเพื่อคอยชี้แจงสิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำให้นักท่องเที่ยวทราบมากกว่า เพราะที่ผ่านมา อาจจะเลยในเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี จะมีการเพิ่มเขตพัฒนาการท่องเที่ยว จากเดิมที่มีอยู่ 5 เขต เพิ่มขึ้นอีก 3 เขต คือ เขตพัฒนาการท่องเที่ยวมรดกโลกทางวัฒนธรรม เขตพัฒนาการท่องเที่ยววิถีชีวิตลุ่มแม่น้ำโขง และเขตพัฒนาการท่องเที่ยวลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลาง รวมถึงทำอย่างไรถึงจะเพิ่มมูลค่าของคลัสเตอร์อย่างมั่นคง โดยให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ขณะที่ในส่วนของปัญหางบประมาณที่จะต้องใช้เงินจากท้องถิ่นเข้ามาสนับสนุน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพูดคุยกับทาง สตง.เพื่อทำความเข้าใจเนื่องจากยังมีมุมมองที่ต่างกัน
ด้าน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการชุดนี้เป็นกรรมการที่ถาวร ไม่ใช้คิดแผนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูแลให้แผนเกิดขึ้นจริงด้วย และทำต่อเนื่องให้ได้คุณภาพ สิ่งสำคัญทำอย่างไรให้รักษาคุณภาพให้ได้อย่างที่ต้องการ โดยเน้นในของเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว การสร้างจิตสำนึกในการเป็นเจ้าบ้านที่ดี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ที่มีอยู่จะต้องเข้มงวดในกฎระเบียบที่มีอยู่แล้ว รวมทั้งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือไปพร้อมๆ กัน เพื่อควบคุมนักท่องเที่ยวให้มีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยั่งยืนที่สุด นอกจากนี้ ยังเน้นการกระจายรายได้จากนักท่องเที่ยวไปสู่การท่องเที่ยวชุมชน การท่องเที่ยวภาคเกษตรมากขึ้น ซึ่งต่อไปกลุ่มอันดามันจะเป็นต้นแบบการท่องเที่ยวคุณภาพ
สำหรับสถานการณ์การท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นั้น ในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวไทย จำนวน 9.1 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 4.33 และมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จำนวน 15.25 ล้านคน ร้อยละ 7.14 และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 413,341.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ร้อยละ 10.22 ทั้งนี้ มาจากปัจจัยสำคัญคือ การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวชาวจีน รวมทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยวการท่องเที่ยว “เมืองต้องห้าม...พลาด” โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน 5 อันดับแรก คือ China / Russia / Australia / Germany และ United Kingdom