ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว งาน “มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า-ไทยแลนด์ยอชต์โชว์ 2016” ครั้งแรกในประเทศที่ภูเก็ต ชูความเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน และกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย เรือสำราญจากแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 50 ลำ ร่วมสร้างสีสัน และความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้เข้าชมงาน
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (11 ก.พ.) พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผู้แทนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมเจ้าท่า และคณะผู้จัดงานร่วมเปิดงาน “มหกรรมเรือสำราญและมารีน่า-ไทยแลนด์ยอชต์ โชว์ 2016” ขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นงานแสดงสุดยอดความอลังการของเรือสำราญแบรนด์ดังระดับโลก นวัตกรรมสุดล้ำ ทั้งหมดกว่า 50 ลำ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการตอบรับนโยบายรัฐบาล และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน รวมทั้งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว และเพิ่มพูนรายได้เข้าประเทศไทย โดยงานแสดงจะจัดขึ้นต่อเนื่องจากวันนี้ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ ณ อ่าวปอ แกรนด์ มารีน่า ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต มีผู้ประกอบการ เจ้าของเรือ อู่ต่อเรือ และซ่อมเรือ นักลงทุน รวมทั้งผู้เข้าชมงานทั่วไปเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทางทะเล เพราะมีความพร้อมในทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงาม โดยเฉพาะทะเลฝั่งอันดามัน ซึ่งปัจจุบันการท่องเที่ยวทางทะเลโดยเรือสำราญ หรือเรือยอชต์ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง และที่ภูเก็ตนี้ก็เป็นจุดที่มีเรือยอชต์เข้ามาเป็นจำนวนมาก
ด้วยเหตุผลดังกล่าว รัฐบาลจึงมีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวด้วยเรือยอชต์ เพื่อสร้างแรงเหนี่ยวนำธุรกิจต่อเนื่อง เช่น มารีน่า อู่ต่อเรือ และซ่อมเรือ คลับเฮาส์ และโรงแรม โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน นอกจากนี้ รัฐบาลกำลังปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อธุรกิจ และการเข้ามาของเรือยอชต์เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และสร้างแรงจูงใจให้แก่นักท่องเที่ยวด้วยเรือยอชต์
รัฐบาลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้นักท่องเที่ยวทางทะเล และผู้ที่มาร่วมงานได้รับทราบถึงความสวยงามของธรรมชาติฝั่งทะเลอันดามัน และความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียนในโอกาสอันใกล้นี้
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านม าจะเห็นได้ว่าความนิยมด้านเรือสำราญในไทย และอาเซียนที่มีอยู่ในระดับที่จำกัด เนื่องจากยังไม่มีข้อตกลงเช่าเหมาลำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ตลาดไม่สามารถโตได้เหมือนเรือสำราญแถบทะเลแคริบเบียน ที่นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง จากที่ได้เรียนประสบการณ์ของประเทศอื่นๆ ที่ล่องเรือสำราญท่ามกลางบรรยากาศสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามนั้น จะสามารถส่งผลให้มีรายได้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างมากมาย ดังนั้น เรือสำราญจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลงทุนได้ตระหนักถึงศักยภาพของธุรกิจเรือสำราญ และมารีน่า และแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียน
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการปรับปรุงเงื่อนไขข้อกฎหมายที่จำเป็นสำหรับกฎบัตรบังคับเรือสำราญ และการดำเนินธุรกิจเรือสำราญ รวมทั้งด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่สามารถเอื้ออำนวยแก่เรือสำราญ กฎของกรมศุลกากร สนับสนุนสถานที่ใหม่ๆ สำหรับการพัฒนาเป็นท่าจอดรถ ตลอดจนมองหาภาคเอกชนมาร่วมลงทุน แผนยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือ การนำเจ้าของเรือ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องต่อเรือสำราญ อู่ต่อเรือ และซ่อมเรือ ชิ้นส่วนและอะไหล่เรือ นักลงทุนธุรกิจ กีฬาทางน้ำ และผู้ดำเนินการเรือเพื่อการนันทนาการ เข้าร่วมดำเนินการไปด้วยกัน ซึ่งเรามั่นใจว่าจะสามารถช่วยพัฒนา และนำไปสู่อุตสาหกรรมที่กว้างขวาง ที่สร้างงานให้คนท้องถิ่น และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจในประเทศโดยตรง โดยเฉพาะได้ส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวทางทะเลเพิ่มขึ้น และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในอนาคต