สุราษฎร์ธานี - สมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ฯ เคลื่อนไหวยื่นหนังสือร้อง คสช. ผ่านศูนย์ดำรงธรรม ช่วยเหลือผู้ไม่มีเอกสารสิทธิ และเรียกร้องตั้งกรรมการตรวจสอบประวัติการทำกิน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 ก.พ.) นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี นายพงชัย สังข์เพชร ประธานกลุ่มเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิ์ จ.สุราษฎร์ธานี นายเด่นเดช เดชมณี เลขาธิการสมาคมเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเลขาธิการสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ พร้อมตัวแทนชาวสวนยางประมาณ 20 คน ได้นำรายชื่อเกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 465 รายในพื้นที่ ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม เนื้อที่กว่า 4 พันไร่ พร้อมภาพถ่ายทางอากาศของกรมป่าไม้ ซึ่งจัดทำเป็นรูปเล่มความหนากว่า 400 หน้า ร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ผ่านทาง นายชวลิต พลไทย หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เพื่อขอให้พิจารณาแก้ไขประกาศคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ที่ได้ดำเนินการไปนั้นโดยขณะนี้ผู้ไม่มีเอกสารสิทธิจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งเป็นการขัดต่อมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ตามความในนิยาม “เกษตรกรชาวสวนยาง” หมายความว่า เจ้าของผู้เช่า หรือผู้ทำสวนยาง และกรีดยาง ได้รับผลผลิตจากต้นยางในสวนนั้น และได้ขึ้นทะเบียนไว้ต่อการยางแห่งประเทศไทย แต่การช่วยเหลือของภาครัฐจะช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิเท่านั้น เท่ากับเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเสนอข้อเรียกร้องคือ ขอให้ทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ลงไปตรวจสอบพื้นที่ประวัติการเข้าไปอยู่อาศัยของประชาชนในหมู่บ้านเพื่อพิจารณาในการออกเอกสารสิทธิ
ขณะที่ นายชวลิต พลไทย หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในขั้นตอนแรกจะตั้งกรรมการภาคประชาชนขึ้นมา จำนวน 5 คน เพื่อทำงานร่วมกันกับคณะกรรมการของจังหวัดในการตรวจสอบประวัติการทำกินในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ คาดว่าคำสั่งน่าจะเสร็จไม่เกินวันพุธที่ 17 ก.พ.2559 นี้ จากนั้นจะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และรัฐบาลตามลำดับต่อไป
ด้าน นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ที่ร้องเรียนในวันนี้ไม่ได้มีเจตนาทวงถามเรื่องการช่วยเหลือชาวสวนยางที่ยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องราคายางไปก่อนหน้านี้ เพราะเชื่อว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการ และกำลังปรับปรุงวิธีการอยู่ให้เวลารัฐบาล โดยวันนี้เป็นยื่นเสนอข้อเรียกร้องเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางให้ทั่วถึงเพราะยังมีชาวสวนยางจำนวนมากที่ทำกินในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ทั้งที่เข้าไปทำกินมาเป็นเวลานาน จึงทำให้เสียสิทธิในการช่วยเหลือของภาครัฐ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 ก.พ.) นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี นายพงชัย สังข์เพชร ประธานกลุ่มเกษตรกรไม่มีเอกสารสิทธิ์ จ.สุราษฎร์ธานี นายเด่นเดช เดชมณี เลขาธิการสมาคมเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเลขาธิการสมาคมเกษตรกรชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ พร้อมตัวแทนชาวสวนยางประมาณ 20 คน ได้นำรายชื่อเกษตรกรชาวสวนยางที่ไม่มีเอกสารสิทธิ จำนวน 465 รายในพื้นที่ ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม เนื้อที่กว่า 4 พันไร่ พร้อมภาพถ่ายทางอากาศของกรมป่าไม้ ซึ่งจัดทำเป็นรูปเล่มความหนากว่า 400 หน้า ร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ผ่านทาง นายชวลิต พลไทย หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี
เพื่อขอให้พิจารณาแก้ไขประกาศคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ที่ได้ดำเนินการไปนั้นโดยขณะนี้ผู้ไม่มีเอกสารสิทธิจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐ ซึ่งเป็นการขัดต่อมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ตามความในนิยาม “เกษตรกรชาวสวนยาง” หมายความว่า เจ้าของผู้เช่า หรือผู้ทำสวนยาง และกรีดยาง ได้รับผลผลิตจากต้นยางในสวนนั้น และได้ขึ้นทะเบียนไว้ต่อการยางแห่งประเทศไทย แต่การช่วยเหลือของภาครัฐจะช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิเท่านั้น เท่ากับเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิกลับไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเสนอข้อเรียกร้องคือ ขอให้ทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ลงไปตรวจสอบพื้นที่ประวัติการเข้าไปอยู่อาศัยของประชาชนในหมู่บ้านเพื่อพิจารณาในการออกเอกสารสิทธิ
ขณะที่ นายชวลิต พลไทย หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ในขั้นตอนแรกจะตั้งกรรมการภาคประชาชนขึ้นมา จำนวน 5 คน เพื่อทำงานร่วมกันกับคณะกรรมการของจังหวัดในการตรวจสอบประวัติการทำกินในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ คาดว่าคำสั่งน่าจะเสร็จไม่เกินวันพุธที่ 17 ก.พ.2559 นี้ จากนั้นจะนำเสนอต่อผู้บังคับบัญชา และรัฐบาลตามลำดับต่อไป
ด้าน นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมัน จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ที่ร้องเรียนในวันนี้ไม่ได้มีเจตนาทวงถามเรื่องการช่วยเหลือชาวสวนยางที่ยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องราคายางไปก่อนหน้านี้ เพราะเชื่อว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการ และกำลังปรับปรุงวิธีการอยู่ให้เวลารัฐบาล โดยวันนี้เป็นยื่นเสนอข้อเรียกร้องเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือชาวสวนยางให้ทั่วถึงเพราะยังมีชาวสวนยางจำนวนมากที่ทำกินในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ทั้งที่เข้าไปทำกินมาเป็นเวลานาน จึงทำให้เสียสิทธิในการช่วยเหลือของภาครัฐ
