ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อดีต ส.ว.ภูเก็ต ฝากรัฐบาลหยิบยกปัญหานอมินีเป็นวาระแห่งชาติ แก้ปัญหาการเข้ามาทำธุรกิจแบบครบวงจร ก่อนที่การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะถึงจุดล่มสลาย
นางธัญรัศม์ อัจฉริยะฉาย อดีตสมาชิกวุฒิสภาภูเก็ต และอดีตประธานคณะกรรมการธิการท่องเที่ยววุฒิสภา เปิดเผยถึงปัญหาการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตว่า ในนามตัวแทนภาคธุรกิจท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะภูเก็ต อยากจะให้นายกรัฐมนตรี ลงมาดูข้อเท็จจริง รับฟังสภาพปัญหาจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้มีตัวเลขประสบความสำเร็จเรื่องการท่องเที่ยวอย่างที่รัฐบาลมีการนำเสนอผ่านสื่อ ปัจจุบันนี้ ชาวภูเก็ต ผู้ประกอบการคนไทยที่อยู่ในท้องถิ่นกำลังย่ำแย่เริ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เพราะว่ารายได้ที่นักท่องเที่ยวนำเข้ามาไม่ได้ตกถึงชาวภูเก็ต หรือคนไทยที่ทำธุรกิจที่นี่เลย เพราะจะมีการทำธุรกิจของผู้ประกอบการที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบครบวงจร จึงอยากฝากรัฐบาลช่วยหยิบยกปัญหาตรงนี้เป็นวาระแห่งชาติ ต้องลงมารับฟังปัญหาจากชาวภูเก็ต และผู้ประกอบการคนไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ไม่ใช่ดูจากตัวเลขของนักท่องเที่ยว แล้วก็ประมาณการตามจำนวนนักท่องเที่ยวว่าประเทศไทยได้เท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เข้าคนไทยเลย
“ในฐานะที่เป็นอดีตประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา และเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน จะทราบข้อเท็จจริงตลอด ขณะนี้มีตัวแทนผู้ประกอบการจำนวนมาก เข้ามาร้องขอให้ตนช่วยนำปัญหานี้เสนอไปทางรัฐบาล แต่ทุกครั้งที่รัฐบาล โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ไม่เคยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประชุมเลย จึงไม่ทราบว่าท่านได้ข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ถ้าฟังจากส่วนราชการ หรือฟังจากคนที่มีผลประโยชน์ หรือว่านอมินีอย่างเดียวก็จะไม่ได้รับข้อเท็จจริงทั้งหมด
ฉะนั้น อันนี้เป็นความเดือดร้อนของภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวถือว่าเป็นอาชีพที่จะมาช่วยแก้ไขวิกฤตของประเทศชาติ แต่ข้อเท็จจริง ณ ขณะนี้คนไทยไม่ได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยว แต่ทรัพยากรธรรมชาติของเรามีแต่เสื่อมสลายลง มาใช้ธรรมชาติของเรา มีขยะ มีปัญหามาให้เรา แต่เราไม่ได้รับผลประโยชน์เลย ถึงจะได้รับแต่ก็น้อยนิดมาก จึงอยากฝากให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ต้องรับทราบในเรื่องนี้ และต้องให้ภาครัฐหาทางแก้ไขเป็นการเร่งด่วน ถ้าไม่แก้ไขคิดว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะถึงจุดล่มสลาย” อดีต ส.ว.ภูเก็ต กล่าว
นางธัญรัศม์ อัจฉริยะฉาย อดีตสมาชิกวุฒิสภาภูเก็ต และอดีตประธานคณะกรรมการธิการท่องเที่ยววุฒิสภา เปิดเผยถึงปัญหาการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตว่า ในนามตัวแทนภาคธุรกิจท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน โดยเฉพาะภูเก็ต อยากจะให้นายกรัฐมนตรี ลงมาดูข้อเท็จจริง รับฟังสภาพปัญหาจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้มีตัวเลขประสบความสำเร็จเรื่องการท่องเที่ยวอย่างที่รัฐบาลมีการนำเสนอผ่านสื่อ ปัจจุบันนี้ ชาวภูเก็ต ผู้ประกอบการคนไทยที่อยู่ในท้องถิ่นกำลังย่ำแย่เริ่มเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เพราะว่ารายได้ที่นักท่องเที่ยวนำเข้ามาไม่ได้ตกถึงชาวภูเก็ต หรือคนไทยที่ทำธุรกิจที่นี่เลย เพราะจะมีการทำธุรกิจของผู้ประกอบการที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบครบวงจร จึงอยากฝากรัฐบาลช่วยหยิบยกปัญหาตรงนี้เป็นวาระแห่งชาติ ต้องลงมารับฟังปัญหาจากชาวภูเก็ต และผู้ประกอบการคนไทยที่ได้รับผลกระทบอย่างแท้จริง ไม่ใช่ดูจากตัวเลขของนักท่องเที่ยว แล้วก็ประมาณการตามจำนวนนักท่องเที่ยวว่าประเทศไทยได้เท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เข้าคนไทยเลย
“ในฐานะที่เป็นอดีตประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยววุฒิสภา และเป็นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน จะทราบข้อเท็จจริงตลอด ขณะนี้มีตัวแทนผู้ประกอบการจำนวนมาก เข้ามาร้องขอให้ตนช่วยนำปัญหานี้เสนอไปทางรัฐบาล แต่ทุกครั้งที่รัฐบาล โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ไม่เคยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิในจังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมประชุมเลย จึงไม่ทราบว่าท่านได้ข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ถ้าฟังจากส่วนราชการ หรือฟังจากคนที่มีผลประโยชน์ หรือว่านอมินีอย่างเดียวก็จะไม่ได้รับข้อเท็จจริงทั้งหมด
ฉะนั้น อันนี้เป็นความเดือดร้อนของภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งการท่องเที่ยวถือว่าเป็นอาชีพที่จะมาช่วยแก้ไขวิกฤตของประเทศชาติ แต่ข้อเท็จจริง ณ ขณะนี้คนไทยไม่ได้รับอานิสงส์จากการเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยว แต่ทรัพยากรธรรมชาติของเรามีแต่เสื่อมสลายลง มาใช้ธรรมชาติของเรา มีขยะ มีปัญหามาให้เรา แต่เราไม่ได้รับผลประโยชน์เลย ถึงจะได้รับแต่ก็น้อยนิดมาก จึงอยากฝากให้รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ต้องรับทราบในเรื่องนี้ และต้องให้ภาครัฐหาทางแก้ไขเป็นการเร่งด่วน ถ้าไม่แก้ไขคิดว่าการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะถึงจุดล่มสลาย” อดีต ส.ว.ภูเก็ต กล่าว
