โจนส์ แลงฯ ระบุธุรกิจโรงพยาบาลกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่อยู่ในภาคธุรกิจด้านการดูแลรักษาสุขภาพ ปัจจัยหนุนการใช้จ่ายด้านสุขภาพของคนไทยที่เพิ่มสูงขึ้น การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุ และการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยโรงพยาบาลในต่างจังหวัดกำลังเป็นที่หมายตาของนักลงทุนจากส่วนกลาง
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล (โจนส์ แลง ลาซาลล์) กล่าวถึงการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ว่า โดยทั่วไปมักหมายถึงอสังหาริมทรัพย์ประเภทใหญ่ๆ 4 ประเภท ได้แก่ อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ที่อยู่อาศัย และโรงแรม แต่ในความเป็นจริงการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ยังเกิดขึ้นในภาคธุรกิจประเภทอื่นๆ อีก เช่น การดูแลรักษาสุขภาพ อุตสาหกรรมการผลิต และลอจิสติกส์ เป็นต้น ทั้งนี้ สำหรับธุรกิจการดูแลรักษาสุขภาพ พบว่า เป็นภาคธุรกิจที่มีการลงทุนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นมากเป็นพิเศษเมื่อเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด
ข้อมูลที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะแสดงให้เห็นว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีการลงทุนซื้อขายสถานพยาบาลทั้งทางตรง และทางอ้อมเกิดขึ้นหลายรายการในต่างจังหวัด โดยนักลงทุนที่เข้าซื้อเป็นผู้ประกอบการสถานพยาบาลที่มีธุรกิจอยู่แล้วในกรุงเทพฯ ตัวอย่างเช่น บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อโรงพยาบาลโรงพยาบาลสิริโรจน์ (ปัจจุบันคือ โรงพยาบาลภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนล) ขนาด 281 เตียง บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เข้าซื้อหุ้นของบริษัท นวนครการแพทย์ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลนวนคร จ.ปทุมธานี ขนาด 200 เตียง และโรงพยาบาลนวนคร จ.พระนครศรีอยุธยา ขนาด 105 เตียง ซึ่งหลังการเข้าซื้อหุ้นของ BCH โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลการุณเวช นอกจากนี้ BCH ยังได้เข้าซื้อโรงพยาบาลโสธราเวช จ.ฉะเชิงเทรา ขนาด 200 เตียง
“โรงพยาบาลที่มีอยู่เดิมเป็นตัวเลือกที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่เข้าซื้อ เนื่องจากมีใบอนุญาตพร้อม ส่วนด้านคุณภาพมีการเข้าลงทุนซื้อทั้งโรงพยาบาลที่มีคุณภาพสูง และคุณภาพรอง ในส่วนของโรงพยาบาลคุณภาพรอง หลังถูกซื้อเจ้าของใหม่จะเข้าปรับปรุงสถานที่-อุปกรณ์ และบริการต่างๆ ให้ดีขึ้น และเปลี่ยนไปใช้ชื่อใหม่”
อย่างไรก็ดี ในขณะนี้มีโรงพยาบาลเสนอขายน้อยมาก โดยเจแอลแอลได้รับการมอบหมายให้เป็นตัวแทนการขายธุรกิจโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในหัวเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัย และมีการบริหารจัดการที่ดี ประกอบด้วยอาคาร 4 หลัง ซึ่งมีพื้นที่รวม 11,000 ตารางเมตร บนที่ดิน 4 ไร่ และยังมีที่ดินว่างสำหรับให้ขยายอาคารเพิ่มได้ ทั้งนี้ เป็นการเสนอขายในลักษณะของการให้นักลงทุนที่สนใจยื่นเสนอราคา นับจากวันนี้ไปจนถึงเดือนธันวาคม โดยขณะนี้มีนักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากโอกาสที่จะมีโรงพยาบาลคุณภาพดีเสนอขายมีไม่มาก
กำลังการใช้จ่ายของคนไทยในต่างจังหวัดที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับความต้องการใช้บริการสถานพยาบาลคุณภาพสูงจากผู้ใช้บริการที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีมากขึ้น ทำให้ความต้องการบริการรักษาพยาบาลในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้ประกอบการด้านธุรกิจดูแลรักษาสุขภาพ และสถานพยาบาลรายใหญ่จากกรุงเทพฯ มองเห็นศักยภาพทางธุรกิจด้วยการลงทุนซื้อโรงพยาบาลในต่างจังหวัด ด้วยเหตุนี้ เจแอลแอลคาดว่าจะยังคงมีการลงทุนซื้อขายโรงพยาบาลเกิดขึ้นต่อไปอีก แม้จะมีปริมาณการซื้อขายเกิดขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากมีโรงพยาบาลเสนอขายน้อย