xs
xsm
sm
md
lg

บุกค้น “MBI GROUP” อาณาจักรธุรกิจ 2 พันล้านชายแดนไทย-มาเลย์ ยึดเงินสดหลากสกุล และรวบ 3 ผู้ถือหุ้นส่ง ปปง.สอบหาเส้นทางฟอกเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ทหาร สนธิกำลังตำรวจ ดีเอสไอ จนท.ที่ดิน และพาณิชย์ จ.สงขลา บุกเข้าตรวจค้นอาณาจักรธุรกิจมูลค่ากว่า 21 พันล้าน “MBI GROUP” ของกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากแดนเสือเหลือง ใน ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา พบมีการซุกยึดเงินสดหลายสกุลรวม 83 ล้านบาท พร้อมคุมตัว 3 ผู้ถือหุ้นทั้งมาเลย์ และไทยส่งให้ ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการฟอกเงิน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27 ม.ค.) พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.ร.5/ผบ.ฉก.ร.5 พร้อมด้วยทหาร กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ส่วนหน้า รวมถึงตำรวจ สภ.สะเดา จ.สงขลา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานที่ดิน และสำนักงานพาณิชย์ จ.สงขลา ได้สนธิกำลังกันบุกเข้าตรวจสอบอาณาจักรธุรกิจของบริษัท MBI GROUP ซึ่งเป็นบริษัทต่างชาติยักษ์ใหญ่ที่เข้าไปทำธุรกิจในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ประกอบด้วย โรงแรม 6 แห่ง รีสอร์ต 2 แห่ง อพาร์ตเมนต์ 9 แห่ง และหมู่บ้านวัฒนธรรมอาเซียน ทั้งในส่วนของสวนไดโนเสาร์ เมืองคาวบอย ฟิวเจอร์ปาร์ค ฟาร์มม้า และสวนแพนด้า รวมมูลค่าการลงทุนทั้งหมดสูงถึงประมาณ 2,000 ล้านบาท
 

 
สำหรับบริษัท MBI GROUP จดทะเบียนในนามของบริษัทจำนวนหลายบริษัท โดยมีผู้ถือหุ้นหลักเป็นชาวมาเลเซีย 1 คน คือ นายเตียว วุย ฮวด กรรมการผู้จัดการบริษัท รวมทั้งมีคนไทยร่วมถือหุ้นด้วย ได้แก่  น.ส.นันทภัค ภานุวัฒนากูล และนายนพโรจน์  ศิริพัฒนธนภาค และยังได้ร่วมเป็นคณะผู้บริหารของบริษัทอีกด้วย
 
จากการตรวจค้นของคณะเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวที่โรงแรม THE WAI พื้นที่ ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับบริษัท MBI GROUP ได้ตรวจพบเงินสดทั้งเงินสกุลไทย และเงินตราต่างชาติจำนวนมาก เช่น เงินริงกิตของประเทศมาเลเซีย เงินดอลลาร์ของไต้หวัน และเงินหยวนของประเทศจีน โดยเมื่อร่วมกันแล้วมีมูลค่ากว่า 83 ล้านบาท โดยเงินทั้งหมดถูกเก็บเอาไว้ภายในห้องพักชั้น 4 ห้องหมายเลข 401

 
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการยึดเงินสดเหล่านั้นไว้ทั้งหมดไว้เพื่อทำการตรวจสอบถึงที่มาที่ไปอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมกับควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้อง 3 คน ส่งสำนักป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ DSI เพื่อร่วมกันตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินทั้งระบบ และการเข้ามาจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย ซึ่งคาดว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542
 
เกี่ยวกับเรื่องนี้ แหล่งข่าวด้านความมั่นคงจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า โรงแรม และกิจการต่างๆ ทั้ง 6 แห่งที่ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลสำนักขาม ที่เป็นของบริษัทแห่งนี้ ในส่วนของโรงแรมเคพีเคนั้น เป็นถึงโรงแรมชื่อดัง มีข้าราชการผู้ใหญ่จำนวนมากมีชื่อร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย และมักจะถูกใช้เป็นแหล่งของการสรรหาความสำราญบ่อยครั้ง ที่ผ่านมา แทบไม่เคยมีหน่วยงานไหนกล้าที่จะเข้าไปตรวจสอบ ทั้งๆ ที่แหล่งบันเทิงในโรงแรมดังกล่าวทำผิดกฎหมายทั้งในเรื่องการเปิดเกินเวลา และอื่นๆ
 

 
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการตรวจสอบพบอีกว่า โรงแรมเคพีเคแห่งนี้ได้มีส่วนพัวพันคดีฆ่านักธุรกิจพันล้านชาวมาเลเซีย คือ นายลี อา ฮาน ที่ถูกมือปืนประกบยิงเสียชีวิตในพื้นที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อราว 2 เดือนที่ผ่านมาด้วย เนื่องจากที่ดินหลายแปลงที่บริษัทนี้ถือครองในส่วนที่ใช้สร้างโรงแรม และอื่นๆ นั้นเป็นที่ดินที่ซื้อมาจากนาย ลี อาฮาน ผู้ซึ่งก็เคยเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทแห่งนี้อยู่ก่อนด้วย
 
แหล่งข่าวคนเดิมยังเปิดเผยด้วยว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามการดำเนินการทางธุรกิจของบริษัทนี้มาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากพบข้อสงสัยในการเข้าไปกว้านซื้อที่ดิน รวมถึงการทำธุรกิจในพื้นที่หลายอย่างที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกลุ่มธุรกิจสีเทาหลายกลุ่ม รวมถึงกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อีกทั้งยังพบว่าเงินที่มีการยึดไว้เอาไว้ตรวจสอบอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องต่อนักการเมืองระดับรัฐมนตรีของประเทศเพื่อนบ้านด้วย 
  




 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น