ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตลงพื้นที่เจรจากับนายทุน และชาวไทยใหม่ราไวย์ แต่ก็ไม่เป็นผล ขณะที่กลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ยื่นหนังสือผ่านรองนายกรัฐมนตรี ให้เร่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ โดยอ้างว่านายทุนออกโฉนดทับที่สาธารณะหน้าหาดราไวย์ และปิดทางเข้า-ออกทางลงทะเลรวมทั้งพื้นที่ประกอบพิธีกรรม (บาลัย)
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันนี้ (27 ม.ค.) ที่บริเวณทางเข้าออกริมทะเลหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เกิดเหตุปะทะกันขึ้นระหว่างกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คน และชาวไทยใหม่ในพื้นที่ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง เรือเอกสมภพ คำคณา หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาค 3 กำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบกว่า 30 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ และควบคุมความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นมาอีกครั้ง
นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังจากการพูดคุยกับชาวบ้าน และตัวแทนเจ้าของที่ดินว่า การเจรจาดังกล่าวต้องมีการพูดคุยกับเจ้าของที่ดินก่อน เนื่องจากผู้ดูแลไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้เพราะเป็นผู้รับมอบอำนาจมาทำงานเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการเจรจา แต่ทางจังหวัดภูเก็ต ก็จะใช้กฎหมายเป็นหลักในการตรวจสอบโฉนดที่ดิน และหลังจากนี้ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารคุ้มครองดูแลชาวบ้านไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
ด้าน นายชาตรี หมาดสตูล ผู้แทนบริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด กล่าวว่า ในวันนี้ได้นำเครื่องจักรกลมาปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ เพื่อต้องการปรับไถพื้นที่ในการก่อสร้างวิลล่า จำนวน 17 ห้อง บนเนื้อที่ 33 ไร่ แต่ก็ทำไม่ได้สักครั้ง เนื่องจากถูกชาวไทยใหม่ขับไล่ตลอดเวลา แม้จะมีการเจรจากันหลายแล้วก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งโฉนดที่ดินดังกล่าวมีการออกถูกตามกฎหมาย มีการตรวจสอบโฉนดดังกล่าวไปยังสำนักงานที่ดินภูเก็ตหลายครั้งแล้ว และมีการยืนยันว่า เอกสารสิทธิดังกล่าวถูกต้องจริง และมีการขออนุญาตทางจังหวัดในการเข้าปรับพื้นที่ โดยทางจังหวัดก็อนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ สำหรับที่ดินดังกล่าวมีการซื้อขายกันมา 3 ครั้งแล้ว โดยครั้งนี้เป็นของบริษัท บารอดฯ ที่ตนเองได้รับมอบมาดูแลที่ดินดังกล่าว แต่ก็ยังให้ชาวบ้านเดินผ่านได้บริเวณริมชายหาดแต่ไม่ให้นำรถจักรยานยนต์เข้ามาในพื้นที่เป็นอันขาด
ขณะที่ นายสนิท แซ่ซั่ว ตัวแทนชาวไทยใหม่บ้านราไวย์ กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุตนเอง และชาวบ้านได้นั่งอยู่บริเวณใต้ต้นมะขาม โดยได้ขัดขวางไม่ให้กลุ่มนายทุนเอาก้อนหินมาเพื่อปิดทางสาธารณประโยชน์ ที่ชาวไทยใหม่บ้านราไวย์เคยใช้ร่วมกันมานานกว่า 100 ปี และเพื่อใช้เป็นทางผ่านไปประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน และไปพื้นที่ประกอบพิธีกรรม (บาลัย) ชาวไทยใหม่บ้านราไวย์ จึงได้รวมตัวกันเพื่อออกมาปกป้องพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ปาก้อนหินเข้าใส่ชาวบ้าน และมีการวิ่งนำมาตีทั้งผู้สูงอายุ และวัยรุ่นจนได้รับบาดเจ็บไปหลายราย โดยตนเองขอให้เจ้าหน้าที่ลงมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เดินทางออกจากพื้นที่ไป มีเพียงผู้ดูแลอยู่ประมาณ 3-5 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารยังคงดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านตลอดเวลา
ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิรันดร์ หยังปาน ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านตำบลราไวย์ และชาวไทยใหม่ราไวย์ กว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐหาแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดิน โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
นายนิรันดร์ ตัวแทนชุมชนชาวเลราไวย์ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้ เนื่องจากกลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ มีปัญหาข้อพิพาทมายาวนานเรื่องที่ดินซึ่งนายทุนได้ออกเอกสารสิทธิทับที่ดินสาธารณะบริเวณหน้าชายหาดราไวย์ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวก่อนหน้านี้พวกตนได้ใช้สัญจรเพื่อลงไปประกอบอาชีพในทะเล และใช้พื้นที่ในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ กระทั่งเมื่อมีผู้มาอ้างสิทธิการครอบครอง และได้เข้ามาจะก่อสร้างกำแพงปิดทางเข้าออกทำให้พวกตนเดือดร้อน ที่ผ่านมา มีการกระทบกระทั่งต่อกลุ่มนายทุนหลายครั้ง จนล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันเดียวกันนี้ นายทุนรายดังกล่าวได้นำกำลังชายฉกรรจ์จำนวนมาก 100 นาย เข้ามาอยู่ในพื้นที่ และนำก้อนหินพร้อมแท่งปูนมาปิดทางเข้าออกอีก พวกตนจึงรวมตัวกันมายื่นหนังสือเพื่อให้รัฐบาลเข้ามาดูแลอย่างเร่งด่วน
นายนิรัน กล่าวต่ออีกว่า ชุมชนชาวไทยใหม่ราไวย์นั้นอยู่ในขบวนการแก้ปัญหา โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเลซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งไว้แล้วในเบื้องต้น ซึ่งการทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีความคืบหน้าเป็นระยะ แต่สำหรับชุมชนราไวย์มีปัญหาเข้ามาเป็นระยะ ทั้งเรื่องของคดีความที่มีการฟ้องร้องขับไล่ตลอดเวลา เรื่องการบีบจากเอกชนในพื้นที่โดยรอบชุมชนไม่ให้ใช้พื้นที่ประกอบพิธีกรรม และลงทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงประมาณ 2 วัน ได้มีทหารเข้ามาคุ้มกันเอกชนเพื่อไม่ให้ถูกขัดขวางจากกลุ่มชาวเลในการก่อสร้างปิดทางสาธารณะ
วันนี้พวกตนจึงยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเพื่อให้ดำเนินการเร่งด่วนใน 3 เรื่อง ผ่านรองนายกรัฐมนตรี คือ เร่งรัดการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินชุมชนชาวเลราไวย์ ในส่วนที่ออกทับที่ดินสาธารณะหน้าชายหาด ให้มีการคุ้มครองพื้นที่ประกอบพิธีกรรม (บาลัย) และชายหาดตลอดบริเวณที่เป็นพื้นที่สาธารณะจนกว่าการเจรจาระหว่างชาวเลราไวย์ กับเอกชนจะแล้วเสร็จ และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของทหารบกหน่วยหนึ่งที่เข้ามาคุ้มกันให้เอกชนเข้ามาดำเนินการปิดทางเข้า-ออกทางลงทะเล และพื้นที่ประกอบพิธีกรรม
จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันนี้ (27 ม.ค.) ที่บริเวณทางเข้าออกริมทะเลหาดราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เกิดเหตุปะทะกันขึ้นระหว่างกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 100 คน และชาวไทยใหม่ในพื้นที่ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายอรุณ โสฬส นายกเทศมนตรีตำบลราไวย์ พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.นพดล ถิรประวัติ ผกก.สภ.ฉลอง เรือเอกสมภพ คำคณา หัวหน้าชุดประสานงานประจำพื้นที่ ทหารเรือที่ 13 ทัพเรือภาค 3 กำลังจากเจ้าหน้าที่ทหารทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ทั้งในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบกว่า 30 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ และควบคุมความสงบเรียบร้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นมาอีกครั้ง
นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังจากการพูดคุยกับชาวบ้าน และตัวแทนเจ้าของที่ดินว่า การเจรจาดังกล่าวต้องมีการพูดคุยกับเจ้าของที่ดินก่อน เนื่องจากผู้ดูแลไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้เพราะเป็นผู้รับมอบอำนาจมาทำงานเท่านั้น และต้องใช้เวลาในการเจรจา แต่ทางจังหวัดภูเก็ต ก็จะใช้กฎหมายเป็นหลักในการตรวจสอบโฉนดที่ดิน และหลังจากนี้ก็จะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารคุ้มครองดูแลชาวบ้านไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาอีกครั้ง
ด้าน นายชาตรี หมาดสตูล ผู้แทนบริษัท บารอน เวิลด์ เทรด จำกัด กล่าวว่า ในวันนี้ได้นำเครื่องจักรกลมาปิดพื้นที่ไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ เพื่อต้องการปรับไถพื้นที่ในการก่อสร้างวิลล่า จำนวน 17 ห้อง บนเนื้อที่ 33 ไร่ แต่ก็ทำไม่ได้สักครั้ง เนื่องจากถูกชาวไทยใหม่ขับไล่ตลอดเวลา แม้จะมีการเจรจากันหลายแล้วก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ซึ่งโฉนดที่ดินดังกล่าวมีการออกถูกตามกฎหมาย มีการตรวจสอบโฉนดดังกล่าวไปยังสำนักงานที่ดินภูเก็ตหลายครั้งแล้ว และมีการยืนยันว่า เอกสารสิทธิดังกล่าวถูกต้องจริง และมีการขออนุญาตทางจังหวัดในการเข้าปรับพื้นที่ โดยทางจังหวัดก็อนุญาตให้เข้าพื้นที่ได้ สำหรับที่ดินดังกล่าวมีการซื้อขายกันมา 3 ครั้งแล้ว โดยครั้งนี้เป็นของบริษัท บารอดฯ ที่ตนเองได้รับมอบมาดูแลที่ดินดังกล่าว แต่ก็ยังให้ชาวบ้านเดินผ่านได้บริเวณริมชายหาดแต่ไม่ให้นำรถจักรยานยนต์เข้ามาในพื้นที่เป็นอันขาด
ขณะที่ นายสนิท แซ่ซั่ว ตัวแทนชาวไทยใหม่บ้านราไวย์ กล่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุตนเอง และชาวบ้านได้นั่งอยู่บริเวณใต้ต้นมะขาม โดยได้ขัดขวางไม่ให้กลุ่มนายทุนเอาก้อนหินมาเพื่อปิดทางสาธารณประโยชน์ ที่ชาวไทยใหม่บ้านราไวย์เคยใช้ร่วมกันมานานกว่า 100 ปี และเพื่อใช้เป็นทางผ่านไปประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน และไปพื้นที่ประกอบพิธีกรรม (บาลัย) ชาวไทยใหม่บ้านราไวย์ จึงได้รวมตัวกันเพื่อออกมาปกป้องพื้นที่ดังกล่าว จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ปาก้อนหินเข้าใส่ชาวบ้าน และมีการวิ่งนำมาตีทั้งผู้สูงอายุ และวัยรุ่นจนได้รับบาดเจ็บไปหลายราย โดยตนเองขอให้เจ้าหน้าที่ลงมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ได้เดินทางออกจากพื้นที่ไป มีเพียงผู้ดูแลอยู่ประมาณ 3-5 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารยังคงดูแลความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านตลอดเวลา
ต่อมา เมื่อเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิรันดร์ หยังปาน ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านตำบลราไวย์ และชาวไทยใหม่ราไวย์ กว่า 50 คน เข้ายื่นหนังสือถึงรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ภาครัฐหาแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องที่ดิน โดยมี พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
นายนิรันดร์ ตัวแทนชุมชนชาวเลราไวย์ กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้ เนื่องจากกลุ่มชาวไทยใหม่ราไวย์ มีปัญหาข้อพิพาทมายาวนานเรื่องที่ดินซึ่งนายทุนได้ออกเอกสารสิทธิทับที่ดินสาธารณะบริเวณหน้าชายหาดราไวย์ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวก่อนหน้านี้พวกตนได้ใช้สัญจรเพื่อลงไปประกอบอาชีพในทะเล และใช้พื้นที่ในการประกอบพิธีกรรมตามความเชื่อ กระทั่งเมื่อมีผู้มาอ้างสิทธิการครอบครอง และได้เข้ามาจะก่อสร้างกำแพงปิดทางเข้าออกทำให้พวกตนเดือดร้อน ที่ผ่านมา มีการกระทบกระทั่งต่อกลุ่มนายทุนหลายครั้ง จนล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันเดียวกันนี้ นายทุนรายดังกล่าวได้นำกำลังชายฉกรรจ์จำนวนมาก 100 นาย เข้ามาอยู่ในพื้นที่ และนำก้อนหินพร้อมแท่งปูนมาปิดทางเข้าออกอีก พวกตนจึงรวมตัวกันมายื่นหนังสือเพื่อให้รัฐบาลเข้ามาดูแลอย่างเร่งด่วน
นายนิรัน กล่าวต่ออีกว่า ชุมชนชาวไทยใหม่ราไวย์นั้นอยู่ในขบวนการแก้ปัญหา โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัย พื้นที่ทางจิตวิญญาณของชุมชนชาวเลซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งไว้แล้วในเบื้องต้น ซึ่งการทำงานของคณะกรรมการชุดดังกล่าวมีความคืบหน้าเป็นระยะ แต่สำหรับชุมชนราไวย์มีปัญหาเข้ามาเป็นระยะ ทั้งเรื่องของคดีความที่มีการฟ้องร้องขับไล่ตลอดเวลา เรื่องการบีบจากเอกชนในพื้นที่โดยรอบชุมชนไม่ให้ใช้พื้นที่ประกอบพิธีกรรม และลงทะเล ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงประมาณ 2 วัน ได้มีทหารเข้ามาคุ้มกันเอกชนเพื่อไม่ให้ถูกขัดขวางจากกลุ่มชาวเลในการก่อสร้างปิดทางสาธารณะ
วันนี้พวกตนจึงยื่นหนังสือข้อเรียกร้องเพื่อให้ดำเนินการเร่งด่วนใน 3 เรื่อง ผ่านรองนายกรัฐมนตรี คือ เร่งรัดการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินชุมชนชาวเลราไวย์ ในส่วนที่ออกทับที่ดินสาธารณะหน้าชายหาด ให้มีการคุ้มครองพื้นที่ประกอบพิธีกรรม (บาลัย) และชายหาดตลอดบริเวณที่เป็นพื้นที่สาธารณะจนกว่าการเจรจาระหว่างชาวเลราไวย์ กับเอกชนจะแล้วเสร็จ และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของทหารบกหน่วยหนึ่งที่เข้ามาคุ้มกันให้เอกชนเข้ามาดำเนินการปิดทางเข้า-ออกทางลงทะเล และพื้นที่ประกอบพิธีกรรม