ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ยื่นหนังสือจดหมายพร้อมร่าง พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจแห่งชาติ ผ่านรองผู้ว่าฯภูเก็ต ชี้มีหลายประเด็นที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ
เมื่อเวลา 13.00 น. (15 ม.ค.) ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภูเก็ต (สรส.) นำโดย นายปริทรรศน์ รุ่งมี เลขานุการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภูเก็ต (สรส.) พร้อมด้วย สมาชิก สรส.สาขาภูเก็ต กว่า 20 คน เข้ายื่นจดหมายพร้อมร่าง พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจแห่งชาติ พ.ศ. ... ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายปริทรรศน์ รุ่งมี เลขานุการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภูเก็ต (สรส.) กล่าวว่า ด้วยทางสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ได้มีมติที่ประชุมร่วมกันในการเดินทางมายื่นหนังสือ ส่งถึง ท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยมอบหมายให้สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์สาขาต่างๆ พร้อมองค์กรสมาชิกเป็นผู้ดำเนินการ
เพื่อเป็นการสนองนโยบายที่รัฐบาลจะบูรณาการ หรือปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้เหตุผล และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนมาโดยตลอดว่า “มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเสียใหม่ เพราะที่ผ่านมา มีการแทรกแซง แสวงหาประโยชน์จากนักการเมือง มีการทุจริต ทำให้ภารกิจของรัฐวิสาหกิจไม่สามรถสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ และประชาชนได้อย่างเต็มที่” และได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมายกร่างกฎหมาย (พ.ร.บ.การพัฒนากำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ... หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า พ.ร.บ.บรรษัทฯ) เพื่อให้บรรจุเจตนารมณ์ดังกล่าว ทาง สรส.ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ต่อมา คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้ผ่านความเห็นชอบสาระสำคัญของกฎหมาย และเมื่อคณะทำงานยกร่างกฎหมายแล้วเสร็จ จึงได้นำเสนอต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.58 ณ โรงแรมคอนราด ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ
หลังจากได้เห็นร่างกฎหมายดังกล่าว ทาง สรส.ได้ตั้งข้อสังเกต และเกิดข้อกังวลสงสัยในหลายประเด็น จึงได้เชิญนักวิชาการ และประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งร่วมประชุมเพื่อหารือ และระดมความคิดเห็นในการวิเคราะห์ร่างกฎหมายร่วมกัน โดยเห็นว่ามีหลายประเด็นที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจที่ท่านนายกรัฐมนตรีต้องการตั้งแต่ต้น และในบางมาตรการขัดต่อหลักกฎหมายที่อาจนำไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในที่สุด
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ และสนองนโยบายของรัฐบาลโดยแท้จริง ดังคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะต้องมีการบูรณาการ และปฏิรูปรัฐวิสาหกิจไทยให้สามารถทำภารกิจเพื่อสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ และประชาชน อีกทั้งเป็นคงไว้ด้วยความรัฐวิสาหกิจไทยสืบต่อไป ทาง สรส.สาขาภูเก็ต พร้อมด้วยองค์สมาชิกใคร่ขอให้ทางนายกรัฐมนตรีได้โปรดรับร่าง พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจแห่งชาติพ.ศ. ...ไว้เพื่อประกอบพิจารณา อีกทั้งให้มีการทบทวนร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับการดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจจะก่อให้เกิดปัญหาในหลายมาตราด้วยต่อไป
ด้าน นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการภูเก็ต กล่าวภายหลังจากรับจดหมายแล้วว่า ทางจังหวัดภูเก็ตก็จะส่งไปให้สำนักนายกรัฐมนตรีทันที
เมื่อเวลา 13.00 น. (15 ม.ค.) ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดภูเก็ต สมาชิกสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภูเก็ต (สรส.) นำโดย นายปริทรรศน์ รุ่งมี เลขานุการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภูเก็ต (สรส.) พร้อมด้วย สมาชิก สรส.สาขาภูเก็ต กว่า 20 คน เข้ายื่นจดหมายพร้อมร่าง พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจแห่งชาติ พ.ศ. ... ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
นายปริทรรศน์ รุ่งมี เลขานุการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ สาขาภูเก็ต (สรส.) กล่าวว่า ด้วยทางสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ได้มีมติที่ประชุมร่วมกันในการเดินทางมายื่นหนังสือ ส่งถึง ท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยมอบหมายให้สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์สาขาต่างๆ พร้อมองค์กรสมาชิกเป็นผู้ดำเนินการ
เพื่อเป็นการสนองนโยบายที่รัฐบาลจะบูรณาการ หรือปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ให้เหตุผล และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนมาโดยตลอดว่า “มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปรัฐวิสาหกิจเสียใหม่ เพราะที่ผ่านมา มีการแทรกแซง แสวงหาประโยชน์จากนักการเมือง มีการทุจริต ทำให้ภารกิจของรัฐวิสาหกิจไม่สามรถสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ และประชาชนได้อย่างเต็มที่” และได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมายกร่างกฎหมาย (พ.ร.บ.การพัฒนากำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ... หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า พ.ร.บ.บรรษัทฯ) เพื่อให้บรรจุเจตนารมณ์ดังกล่าว ทาง สรส.ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ต่อมา คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ได้ผ่านความเห็นชอบสาระสำคัญของกฎหมาย และเมื่อคณะทำงานยกร่างกฎหมายแล้วเสร็จ จึงได้นำเสนอต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.58 ณ โรงแรมคอนราด ถ.วิทยุ กรุงเทพฯ
หลังจากได้เห็นร่างกฎหมายดังกล่าว ทาง สรส.ได้ตั้งข้อสังเกต และเกิดข้อกังวลสงสัยในหลายประเด็น จึงได้เชิญนักวิชาการ และประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งร่วมประชุมเพื่อหารือ และระดมความคิดเห็นในการวิเคราะห์ร่างกฎหมายร่วมกัน โดยเห็นว่ามีหลายประเด็นที่ขัดต่อเจตนารมณ์ของการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจที่ท่านนายกรัฐมนตรีต้องการตั้งแต่ต้น และในบางมาตรการขัดต่อหลักกฎหมายที่อาจนำไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจในที่สุด
ดังนั้น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ และสนองนโยบายของรัฐบาลโดยแท้จริง ดังคำกล่าวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะต้องมีการบูรณาการ และปฏิรูปรัฐวิสาหกิจไทยให้สามารถทำภารกิจเพื่อสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ และประชาชน อีกทั้งเป็นคงไว้ด้วยความรัฐวิสาหกิจไทยสืบต่อไป ทาง สรส.สาขาภูเก็ต พร้อมด้วยองค์สมาชิกใคร่ขอให้ทางนายกรัฐมนตรีได้โปรดรับร่าง พ.ร.บ.พัฒนารัฐวิสาหกิจแห่งชาติพ.ศ. ...ไว้เพื่อประกอบพิจารณา อีกทั้งให้มีการทบทวนร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาการกำกับการดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจจะก่อให้เกิดปัญหาในหลายมาตราด้วยต่อไป
ด้าน นายประเจียด อักษรธรรมกุล รองผู้ว่าราชการภูเก็ต กล่าวภายหลังจากรับจดหมายแล้วว่า ทางจังหวัดภูเก็ตก็จะส่งไปให้สำนักนายกรัฐมนตรีทันที