xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบฯ รวบ “ชินเวศ” อดีตบิ๊กการเงิน “จีเอฟ” ฐานฉ้อโกงเจ้าหนี้ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายชินเวศ สารสาส
ตร.กองปราบฯ รวบ “ชินเวศ สารสาส” อดีตผู้บริหารอาณาจักรการเงิน “จีเอฟ” หลังศาลประจวบฯ ออกหมายจับฐานไม่ไปศาล ในคดีอดีตภรรยาฟ้องข้อหาฉ้อโกงเจ้าหนี้ กรณีแอบยักย้ายถ่ายเทสินสมรส เจ้าตัวอ้างไม่เห็นหมายศาลเพราะย้ายบ้านบ่อย ด้าน “ทนายสุวัตร” เดินทางไปพบพร้อมไกล่เกลี่ย


วันนี้ (3 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. ร.ต.ท.ภูทอง คำภา และ ร.ต.ต.ธรรมนูญ ชูจันทร์ รอง สว.กก.1 ป. จับกุม นายชินเวศ สารสาส อายุ 57 ปี นักธุรกิจชื่อดัง อยู่บ้านเลขที่ 60/286 ม.2 ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เลขที่ 3360/2557 ลงวันที่ 19 พ.ค. 2557 ข้อหาโกงเจ้าหนี้ ขณะที่นายชินเวศเดินอยู่ที่บริเวณล็อบบี้อาคารออลซีซั่นเพลส ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนกองปราบปราม

ต่อมาเมื่อเวลา 18.30 น. นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความส่วนตัวของนางเสาวณีย์ โอสถานุเคราะห์ อดีตภรรยาของนายชินเวศ และเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชินเวศในคดีนี้ ได้เดินทางเข้าพบนายชินเวศเพื่อพูดคุย เจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง

นายสุวัตรกล่าวว่า เมื่อปี 2553 นางเสาวณีย์ได้ยื่นฟ้องหย่าและแบ่งสินสมรสกับนายชินเวศ ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นคดีแพ่ง จำนวนทุนทรัพย์ 1,658,651,760 บาท แบ่งครึ่งเป็นส่วนของนางเสาวณีย์ 829,325,880 บาท ในคดีนั้นได้มีการส่งลายมือชื่อของนางเสาวณีย์ไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ปรากฏว่าเป็นลายมือชื่อปลอม ระหว่างที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปรากฏว่านายชินเวศได้นำทรัพย์สินซึ่งเป็นสินสมรสจำหน่ายจ่ายโอนไป นางเสาวณีย์จึงได้ยื่นฟ้องนายชินเวศต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในความผิดฐานโกงเจ้าหนี้

นายสุวัตรกล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2556 นายชินเวศได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำให้การว่า เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2555 ได้โอนหุ้นในบริษัท กรุงไทย-แอ็กซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 13,549,996 หุ้น ให้กับบริษัท แนชชันนัล มิวชวล อินเตอร์ แนชชันนัล พีทีวาย จำกัด เพื่อชำระหนี้ รวมเป็นเงินจำนวน 134,459,960 บาท มาหักกลบลบหนี้ และเมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2555 นายชินเวศได้โอนหุ้นบริษัท ไตรรัตนชาติ จำกัด ให้กับบริษัท แนชชันนัลฯ เพื่อชำระหนี้ รวมเป็นเงิน จำนวน 34,552,500 บาท โดยหุ้นทั้งสองบริษัทดังกล่าวเป็นของนางเสาวณีย์กึ่งหนึ่ง ซึ่งการที่นายชินเวศอ้างว่าเมื่อปี 2547 มีการทำสัญญากู้เงินจากบริษัท แนชชันนัลฯ โดยนำหุ้นของบริษัท กรุงไทย-แอ็กซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และหุ้นบริษัท ไตรรัตนชาติ ไปจำนำเป็นประกันการชำระหนี้ซึ่งนางเสาวณีย์ไม่เคยทราบและให้ความยินยอมในการทำสัญญากู้เงินดังกล่าว การกระทำดังกล่าวเป็นนิติกรรมอำพรางซึ่งทำภายหลังจากที่นางเสาวณีย์ได้ฟ้องหย่าแล้ว การกระทำดังกล่าวจึงเป็นการกระทำความผิดฐานโกงเจ้าหนี้ ทั้งนี้ เมื่อศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วพบว่าคดีมีมูลจึงมีคำสั่งประทับรับฟ้อง นายชินเวศจึงต้องไปยื่นขอประกันตัวที่ศาลเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่นายชินเวศไม่ได้ไปศาล จึงถูกศาลอนุมัติออกหมายจับดังกล่าว ตามระเบียบเมื่อถูกศาลออกหมายจับเนื่องจากไม่ไปประกันตัว พนักงานสอบสวนจึงไม่สามารถให้ประกันได้ ต้องไปยื่นขอประกันตัวที่ศาลเท่านั้น

นายสุวัตรกล่าวด้วยว่า ที่ตนมาพบนายชินเวศในวันนี้เพื่อไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้เป็นคดีต่อกัน เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวน่าจะยอมความกันได้ แต่นายชินเวศปฏิเสธที่จะไกล่เกลี่ย จึงต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ด้านนายชินเวศกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไร เหตุที่ศาลออกหมายจับเพราะตนไม่ทราบว่าถูกนางเสาวณีย์ อดีตภรรยาฟ้องคดีต่อศาล และไม่ได้รับหมายศาลแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้ย้ายสำมะโนครัวไปที่ จ.ปราจีนบุรี แต่ไม่ได้อยู่ที่นั่นตลอด ที่ผ่านมาก็ได้ย้ายไปพักตามบ้านซึ่งมีอยู่หลายที่ โดยหมายศาลอาจส่งไปที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน จึงทำให้ไม่ทราบว่ามีหมายศาลไปถึง ถ้าหากทราบก็คงตั้งทนายสู้คดี เพราะคดีนี้ไม่ยาก ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนที่อดีตภรรยากล่าวหาว่ามีการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินที่ยังไม่ได้แบ่งนั้นตนคิดว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาดูแต่ทรัพย์สิน ไม่ทราบว่าทรัพย์สินดังกล่าวมีภาระผูกพันอยู่ เมื่อไปผูกพันกับเขาแล้วเขาก็บังคับตามภาระผูกพัน หากขึ้นศาลก็สามารถสู้ได้อยู่แล้ว ทรัพย์สินดังกล่าวทั้งหมดเป็นชื่อตนทั้งหมด ไม่ได้ชื่อคู่ ขณะที่ทรัพย์สินที่เหลืออื่นๆ ตนได้โอนไปให้ลูกทั้งหมดแล้ว ไม่ได้โอนให้คนอื่นเลย ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่ามีการปลอมแปลงลายมือชื่อนั้น เป็นเรื่องที่นางเสาวณีย์เองอาจจะลืม หรืออาจจะให้เลขานุการส่วนตัวเป็นคนเซ็น เพราะเขาเองก็ปฏิบัติธรรมอยู่ต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่

“เป็นเรื่องที่ตลกมากที่อดีตภรรยาไปฟ้องว่าผมฉ้อโกง ทั้งที่ผมได้โอนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับลูก โอนทรัพย์สินให้ลูกมันผิดตรงไหน ไม่ได้ยกให้กิ๊กที่ไหน นี่โดนทั้งคดีแพ่งและอาญา ซึ่งการโอนให้กับลูกก็เป็นไปตามคำสั่งของคุณเสาวณีย์เอง ถามว่าจะคุยกันหรือเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้หรือไม่ ผมยืนยันว่าพร้อมจะคุย แต่คุณเสาวณีย์ จะต้องไปถอนฟ้องคดีอาญาทั้งหมดก่อน ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องผัวเมีย เราสามารถพูดคุยกันได้เสมอ ที่ผ่านมาผมกับเขาอยู่กินกันมา 37 ปี เพิ่งจะมาระหองระแหงเมื่อ 5 ปีนี้เอง” นายชินเวศกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากนายชินเวศถูกออกหมายจับเพราะไม่ไปศาล การยื่นประกันตัวจึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลเท่านั้น เพราะฉะนั้นในคืนนี้นายชินเวศจะต้องควบคุมตัวไว้ที่กองปราบปราม โดยในวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายชินเวศ ไปส่งศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับนายชินเวศ เป็นบิดาของดาราสาวชื่อดัง “ไหม-วิสา สารสาส” และเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มธุรกิจการเงินเครือจีเอฟ ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และได้รับใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์เมื่อเดือนมกราคมปี 2540 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินในช่วงกลางปีเดียวกัน ทำให้เครือจีเอฟประสบปัญหาจนล้มเลิกกิจการเช่นเดียวกับสถาบันการเงินหลายแห่งในประเทศไทย ต่อมานายชินเวศจึงหันไปทำธุรกิจโรงแรมและเปิดบริษัทให้สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์การเกษตร





นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความส่วนตัวของนางเสาวณีย์ โอสถานุเคราะห์ อดีตภรรยาของนายชินเวศ และเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายชินเวศ
กำลังโหลดความคิดเห็น