สุราษฎร์ธานี - สมาคมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี ยื่น 4 ข้อ เสนอต่อรัฐบาลให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างตรงประเด็น และเป็นรูปธรรม
วันนี้ (14 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี พร้อมคณะทำงาน ได้ออกแถลงการณ์ และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางนายชวลิต พลไทย หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ 4 ข้อ คือ
1.รัฐบาลควรเปลี่ยนแนวทางในการมุ่งเน้นการรับซื้อเฉพาะยางแผ่นมาเป็นเศษยาง (ขี้ยาง) และน้ำยางพาราแทน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือชาวสวนยางรายย่อย 2.รัฐบาลควรกำหนดราคารับซื้อยางแผ่นดิบกิโลกรัมละ 60 บาท เพราะเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลต่อราคาต้นทุนเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มปลูกซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 64.21 บาท และควรปรับขึ้นราคาน้ำยางสด และเศษยางตามระดับราคาที่เหมาะสม โดยกำหนดราคาน้ำยางสดที่กิโลกรัมละ 55 บาท เศษยาง กิโลกรัมละ 30-32 บาท 3.รัฐบาลควรเพิ่ม “หน่วยรับซื้อยางพารา” ที่กระจายไปยังอำเภอต่างๆ โดยไม่ระบุเฉพาะตลาดกลางเพียงอย่างเดียว เพื่อสร้างช่องทางให้เกษตรกรรายย่อยและให้เกิดความโปร่งใส และควรระบุระยะเวลาในการรับเงินไม่เกิน 7 วัน หลังการรับซื้อ ทั้งนี้ ไม่ควรจำกัดผู้มีสิทธิขายยางว่าต้องเป็น “ผู้มีเอกสารสิทธิ” เท่านั้น และ 4.รัฐบาลควรกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการเกษตร สถาบันอุดมศึกษา และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการเกษตรร่วมกับชาวสวนยางในพื้นที่ภาคใต้ในการศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างตรงประเด็น และเป็นรูปธรรม
โดยทางแกนนำยื่นหนังสือประกอบจำนวน 2 หน้ากระดาษเอ4 พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบอย่างละเอียดจำนวน 2 หน้ากระดาษเอ4 เป็นข้อเสนอต่อรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาราคายางพารา
นายกิตติศักดิ์ วิโรจน์ นายกสมาคมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางแกนนำให้เวลารัฐบาลในการแก้ไขปัญหาภายใน 30 วัน หากไม่ได้รับการตอบสนองจะมีการเคลื่อนไหวต่อแต่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ จากมติ ครม.เมื่อวันที่ 12 ม.ค.59 ที่มีมติรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรโดยตรง 1 แสนตันนั้น แนวคิดดังกล่าวนั้นไม่ถึงมือเกษตรกรรายย่อย เพราะกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์มีเพียง 3 กลุ่ม คือ สถาบันเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ กลุ่มนายทุนที่มีโรงรมควันยางพารา และกลุ่ม 5 เสือยางพาราในประเทศไทย โดยที่กลุ่มรายย่อยไม่ได้รับผลประโยชน์
ด้าน นายชวลิต พลไทย หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จะนำหนังสือดังกล่าวส่งไปยังผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นอย่างเร่งด่วน และแจ้งความคืบหน้าให้ทางสมาคมเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี ให้รับทราบต่อไป