สุราษฎร์ธานี - สมาคมชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ และสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี เตรียมเคลื่อนไหวยับยั้งหลัง ครม.อนุมัติให้รับซื้อยางแผ่น 100,000 ตัน ในท้องตลาดเพื่อกระตุ้นราคายาง อ้างเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มสถาบันการยาง และพ่อค้าคนกลาง ผลประโยชน์จะไม่ถึงชาวสวนยางเลย เปรียบเหมือนเตะหมูเข้าปากหมา
จากกรณีแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ พร้อมเรียกร้องราคายางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 60 บาท ในที่สุด ครม.ได้อนุมัติให้ อคส.เข้ารับซื้อยางจากเกษตรกร จำนวน 100,000 ตัน และเร่งจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือเกษตรกรรายละ 1,500 บาทให้แล้วเสร็จ
ล่าสุด ในเช้าวันนี้ (13 ม.ค.) นายเด่นเดช เดชมณี เลขาธิการสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาคมชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ และสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี เตรียมเคลื่อนไหวยับยั้งการรับซื้อยางจากเกษตรกร โดยให้เหตุผลว่า โครงการดังกล่าวนั้นผลประโยชน์จะไม่ถึงมือเกษตรกร เนื่องจากขณะนี้ยางแผ่นกว่า 100,000 ตัน ได้อยู่ในมือของกลุ่มสถาบันการยาง และกลุ่มพ่อค้าคนกลาง เมื่อ อคส.จะเปิดการรับซื้อจำนวนยางแผ่นเหล่านี้จะไหลออกสู่ตลาด เกษตรกรรายย่อยจะไม่มีโอกาสได้ขายยางในโครงการดังกล่าว
ซึ่งทางสมาคมจะได้ยื่นหนังถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 3 ข้อ 1.ให้รัฐระงับโครงการรับซื้อยาง จำนวน 100,000 ตัน 2.ให้รัฐตรวจสอบเช็ก และย้ายยางพาราแผ่นที่อยู่ในสต๊อกเก่าตามโครงการ 2 โครงการที่ผ่านมา ให้เข้าไปอยู่ในโกดังของทหารเพื่อทำการเช็กสต๊อกจำนวนจริงมีเท่าไร และมีการทุจริตหรือไม่ 3.ให้รัฐยกเลิกการรับซื้อยางแผ่นโดยให้มาดำเนินการต่อยางก้อน และน้ำยางสด เพราะจะตรงต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรรายย่อย
พร้อมระบุปริมาณน้ำยางของเกษตรกรที่จะไหลออกสู่ตลาดก่อนการปิดกรีดมีอยู่ประมาณ 800,000 ตัน ว่า รัฐควรที่จะแทรกแซงราคาน้ำยางดิบในกิโลกรัมละ 55 บาท และยางก้อนกิโลกรัมละ 30-32 บาท ราคายางแผ่นดิบในตลาดจะขยับขึ้นมาเอง ผลประโยชน์จะตกสู่มือเกษตรกรรายย่อยอย่างแท้จริง
จากกรณีแกนนำเกษตรกรชาวสวนยางพาราในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ พร้อมเรียกร้องราคายางแผ่นดิบชั้น 3 กิโลกรัมละ 60 บาท ในที่สุด ครม.ได้อนุมัติให้ อคส.เข้ารับซื้อยางจากเกษตรกร จำนวน 100,000 ตัน และเร่งจ่ายเงินชดเชยช่วยเหลือเกษตรกรรายละ 1,500 บาทให้แล้วเสร็จ
ล่าสุด ในเช้าวันนี้ (13 ม.ค.) นายเด่นเดช เดชมณี เลขาธิการสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันจังหวัดสุราษฎร์ธานี สมาคมชาวสวนยาง 16 จังหวัดภาคใต้ และสมาคมชาวสวนยางและปาล์มน้ำมันสุราษฎร์ธานี เตรียมเคลื่อนไหวยับยั้งการรับซื้อยางจากเกษตรกร โดยให้เหตุผลว่า โครงการดังกล่าวนั้นผลประโยชน์จะไม่ถึงมือเกษตรกร เนื่องจากขณะนี้ยางแผ่นกว่า 100,000 ตัน ได้อยู่ในมือของกลุ่มสถาบันการยาง และกลุ่มพ่อค้าคนกลาง เมื่อ อคส.จะเปิดการรับซื้อจำนวนยางแผ่นเหล่านี้จะไหลออกสู่ตลาด เกษตรกรรายย่อยจะไม่มีโอกาสได้ขายยางในโครงการดังกล่าว
ซึ่งทางสมาคมจะได้ยื่นหนังถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยยื่นข้อเรียกร้อง จำนวน 3 ข้อ 1.ให้รัฐระงับโครงการรับซื้อยาง จำนวน 100,000 ตัน 2.ให้รัฐตรวจสอบเช็ก และย้ายยางพาราแผ่นที่อยู่ในสต๊อกเก่าตามโครงการ 2 โครงการที่ผ่านมา ให้เข้าไปอยู่ในโกดังของทหารเพื่อทำการเช็กสต๊อกจำนวนจริงมีเท่าไร และมีการทุจริตหรือไม่ 3.ให้รัฐยกเลิกการรับซื้อยางแผ่นโดยให้มาดำเนินการต่อยางก้อน และน้ำยางสด เพราะจะตรงต่อความเดือดร้อนของเกษตรกรรายย่อย
พร้อมระบุปริมาณน้ำยางของเกษตรกรที่จะไหลออกสู่ตลาดก่อนการปิดกรีดมีอยู่ประมาณ 800,000 ตัน ว่า รัฐควรที่จะแทรกแซงราคาน้ำยางดิบในกิโลกรัมละ 55 บาท และยางก้อนกิโลกรัมละ 30-32 บาท ราคายางแผ่นดิบในตลาดจะขยับขึ้นมาเอง ผลประโยชน์จะตกสู่มือเกษตรกรรายย่อยอย่างแท้จริง