สตูล - ชาวสวนยางสตูลบางรายมองทำรายได้เสริมตามนโยบายนายกรัฐมนตรี “ปลูกผักเสริมสร้างรายได้” ทำได้ยุ่งยาก ไร้เงินทุน และถ้ามีสวนยางที่ต้นโตทำได้ลำบาก วอนให้ปรับเรื่องราคาขึ้นดีกว่า
วันที่ (12 ม.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ชี้แนวทางให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางในหลายพื้นที่ทั่วภาคใต้ถึงราคายางพาราที่ตกต่ำในเวลานี้ โดยชี้แนะว่าทางเกษตรกรชาวสวนยางควรที่จะหันมาปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อที่จะสร้างรายได้ให้แก่ชาวสวนยางเป็นอาชีพเสริม แต่ทางด้านเกษตรกรชาวสวนยางในจังหวัดสตูล โดยเฉพาะชาวเกษตรกรบางรายในพื้นที่ ต.บ้านควนขัน อ.เมือง จ.สตูล สะท้อนอีกหนึ่งมุมมองที่ขัดแย้งกับนายกรัฐมนตรี
ทางด้าน นายนุกูล ขุนบุญทอง ได้กล่าวว่า “ถ้าจะให้ปลูกพืชผักในสวนยางก็คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะต้นยางของผมตอนนี้แก่เกินที่จะปลูกผักเหล่านั้นได้ เนื่องจากว่าพอต้นยางโตเต็มที่แล้วใบยางมันจะปิดแสงแดด แสงแดดจึงไม่สามารถส่องลงมายังพื้นที่แปลงผักได้ มันก็จะทำให้ผักไม่เจริญเติบโต ถ้าหากว่าเราจะปลูกพืชผักตามที่รัฐบาลได้แนะนำมา ทางเราก็ต้องหาตันทุนที่จะมาต่อยอดในการทำปลูกพืชผักเหล่านี้อีก แล้วเราจะเอาต้นทุนเหล่านั้นมาจากไหนหากราคายางพารายังอยู่แบบนี้”
“การทำแปลงผักเราก็ต้องไถดิน พอเราไถดินก็ส่งผลต่อรากของต้นยางอีก จะให้เลี้ยงวัว เป็ด ไก่ มันก็เป็นเรื่องยุ่งยาก ขณะเดียวกัน จะส่งผลกระทบต่อเพื่อนชาวสวนยางด้วยกัน เรามีอาชีพหลักคือ กรีดยางพารา ถ้าจะให้หันมาทำอย่างอื่นคงยาก ยิ่งวิกฤตในตอนนี้กับราคาน้ำยางที่ไม่เคยเพิ่มขึ้นมาเลย ยิ่งส่งผลต่อพวกเราเป็นอย่างมาก ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอให้ทางรัฐบาลช่วยเพิ่มราคายางพาราให้สักหน่อย จากปัจจุบันราคาอยู่ที่กิโลละ 32-34 บาท ก็ขอเป็นกิโลละ 50-60 บาท ก็ให้พออยู่เลี้ยงชีพได้” นายนุกูล ขุนบุญทอง กล่าว
ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชาวเกษตรกรสวนยางพาราต้องการในยามวิกฤตตอนนี้ก็คงหลีกหนีเรื่องการเพิ่มราคายางพารา จึงได้ขอให้ทางรัฐบาลช่วยเห็นใจเกษตรกรชาวสวนยางด้วย