กระบี่ - เตรียมนำตั๋วอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เก็บค้าเข้าอุทยานฯ เพื่อความโปร่งใส หลังพบมีการเข้มงวดจัดเก็บในพื้นอุทยานหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี ยอดจัดเก็บเพิ่มขึ้นกว่า 900%
นายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะเดินทางมาตรวจราชการบริเวณทะเลแหวก เกาะทับ และเกาะปอดะ พื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี โดยมี นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นำตรวจเยี่ยม ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 3 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วย จ.กระบี่ พังงา และภูเก็ต ทำหนังสือไปยังกรมอุทยานฯ ขอให้ลดราคาลง 50% เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากการเพิ่มอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ
โดยอัตราเก็บใหม่ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา 200 บาท เป็น 400 บาท เด็ก 100 บาท เป็น 200 บาท ส่วนคนไทย เด็ก จากราคา 10 บาท เป็น 20 บาท ผู้ใหญ่ จาก 20 บาท เป็น 40 บาท โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา พร้อมสั่งการให้มีการติดป้ายทำความเข้าใจนักท่องเที่ยวทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ตลอดการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เหมาะสมต่อการปรับอัตราใหม่ และจะต้องจัดระเบียบของเรือที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติจะต้องขึ้นทะเบียนถูกต้องตามระเบียบราชการทุกลำ
นายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้การจัดเก็บค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาตินั้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี เพิ่มขึ้นกว่า 900% ในช่วงระยะเวลาประมาณไม่ถึง 6 เดือน จัดเก็บได้กว่า 100 ล้านบาท จะเห็นได้ชัดว่าหลังจากมีการเข้มงวดการจัดเก็บมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการจัดเก็บรายได้ที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
จุดไหนที่มีการรั่วไหลต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ในอนาคตก็จะนำการจัดเก็บระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการจัดเก็บ คาดว่าไม่เกิน 3 เดือน จะได้นำมาใช้การอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 3 จังหวัดอันดามันที่จะขอให้ลดราคาค่าเข้าเขตอุทยานลง 50% นั้น ขณะนี้ได้ลงมารับฟังปัญหาในพื้นที่แล้ว ซึ่งจะต้องมาพิจารณาหารือกับหลายฝ่ายในเร็วๆ นี้ ซึ่งการที่ตนมาครั้งนี้มาเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่มาสร้างปัญหา ทุกอย่างต้องได้รับการแก้ไข
นายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยคณะเดินทางมาตรวจราชการบริเวณทะเลแหวก เกาะทับ และเกาะปอดะ พื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี โดยมี นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี นำตรวจเยี่ยม ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 3 จังหวัดอันดามัน ประกอบด้วย จ.กระบี่ พังงา และภูเก็ต ทำหนังสือไปยังกรมอุทยานฯ ขอให้ลดราคาลง 50% เนื่องจากได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากการเพิ่มอัตราค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ
โดยอัตราเก็บใหม่ ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา 200 บาท เป็น 400 บาท เด็ก 100 บาท เป็น 200 บาท ส่วนคนไทย เด็ก จากราคา 10 บาท เป็น 20 บาท ผู้ใหญ่ จาก 20 บาท เป็น 40 บาท โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา พร้อมสั่งการให้มีการติดป้ายทำความเข้าใจนักท่องเที่ยวทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ตลอดการบริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เหมาะสมต่อการปรับอัตราใหม่ และจะต้องจัดระเบียบของเรือที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติจะต้องขึ้นทะเบียนถูกต้องตามระเบียบราชการทุกลำ
นายธัญญา เนติธรรมกุล รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้การจัดเก็บค่าบริการสำหรับบุคคลที่เข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาตินั้นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี เพิ่มขึ้นกว่า 900% ในช่วงระยะเวลาประมาณไม่ถึง 6 เดือน จัดเก็บได้กว่า 100 ล้านบาท จะเห็นได้ชัดว่าหลังจากมีการเข้มงวดการจัดเก็บมากขึ้น ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยการจัดเก็บรายได้ที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
จุดไหนที่มีการรั่วไหลต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ในอนาคตก็จะนำการจัดเก็บระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการจัดเก็บ คาดว่าไม่เกิน 3 เดือน จะได้นำมาใช้การอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว 3 จังหวัดอันดามันที่จะขอให้ลดราคาค่าเข้าเขตอุทยานลง 50% นั้น ขณะนี้ได้ลงมารับฟังปัญหาในพื้นที่แล้ว ซึ่งจะต้องมาพิจารณาหารือกับหลายฝ่ายในเร็วๆ นี้ ซึ่งการที่ตนมาครั้งนี้มาเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่มาสร้างปัญหา ทุกอย่างต้องได้รับการแก้ไข