xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพภาค 4 ลงภูเก็ต ฝากดูแลปัญหาไทม์แชร์ริ่ง ย้ำผู้มีอิทธิพลต้องตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ภูเก็ต ประชุมรับฟังสถานการณ์และแนวทางการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และกระบี่ พร้อมฝากภูเก็ตดูแลปัญหาไทม์แชร์ริ่ง

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 18 ภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานการประชุมรับฟังสถานการณ์และแนวทางการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ อันเนื่องมาจากดำริของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสุธี ทองแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ ปลัดจังหวัดภูเก็ต นายสมศักดิ์เวชพาณิชย์ ปลัดจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการที่ที่เกี่ยวข้องทั้งใน จ.ภูเก็ต และกระบี่ ตลอดจน พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาค 4 และคณะเข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ ได้ให้แต่ละจังหวัดชี้แจงสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติในความรับผิดชอบ โดยในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ได้มีการนำเสนอสถานการณ์การบุกรุกพื้นที่ปลูกยางพารา การแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เช่น การให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ รถป้ายเขียว การบริหารจัดการชายหาด การขุดตักหน้าดิน ปัญหาไกด์เถื่อน ปัญหาไทม์แชริ่ง การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางพารา เป็นต้น ส่วนของจังหวัดกระบี่ ได้นำเสนอสถานการณ์เกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ ทั้งเรื่องของการปลูกยางพารา ปัญหาพื้นที่สวนปาล์ม การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (พม่า ลาว กัมพูชา) การติดตามการเคลื่อนย้ายกลุ่มชนชาวโรฮีนจา และการคัดค้านการก่อสร้างโรงฟ้าถ่านหิน

พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ รองแม่ทัพภาค 4 กล่าวฝากทั้งในส่วนของจังหวัดภูเก็ต และกระบี่ ว่า กรณีหากมีการตรวจพบว่ามีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ใดอยากให้มีการพิสูจน์ทราบ และเชิญมาพบปะพุดคุย เพราะการจะใช้กฎหมายไปจับกุมนั้นจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แม้จะทราบเรื่องของพฤติกรรม และหากต้องการให้ทางภาค 4 ลงมาช่วยดูแลก็ให้แจ้งไปได้ และได้กล่าวย้ำต่อทั้ง 2 จังหวัดให้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด CCTV ที่มีอยู่ในแต่ละหน่วยงาน ซึ่งจะต้องมีการบูรณาการ และให้สามารถใช้งานได้ เนื่องจากที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นการมีกล้องซีซีทีวีก็ทำให้สามารถติดตามหาผู้กระทำผิดได้

ขณะที่ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นไปตามดำริของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีความห่วงใยเรื่องของความปลอดภัย เพราะทั้ง 2 จังหวัดมีความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยว โดยกรณีปัญหาเรื่องที่ดินทำกินในพื้นที่สวนปาล์มของ จ.กระบี่ นั้น ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลอย่าให้เกิดการปะทะ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีการต่อต้าน จัดชุดลงพื้นที่พบปะทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงกรณีการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ อยากให้มีการแยกแยะกลุ่มที่มีความเข้าใจ กลุ่มกลาง และกลุ่มที่คัดค้าน ซึ่งเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบลงมาชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา และไม่ต้องการให้เกิดการปะทะกันขึ้น

ส่วนเรื่องของการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว อยากให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยฝากทางตำรวจ และทหารที่รับผิดชอบลงไปร่วมกันตรวจสอบด้วย ขณะที่การจัดทำแผนป้องกันเหตุความรุนแรงในพื้นที่ซึ่งทราบว่า ได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่หากต้องการเพิ่มเติมในส่วนใดก็สามารถขอเจ้าหน้าที่จากทัพภาค 4 มาให้ความรู้เพิ่มเติมได้ และสุดท้ายเรื่องของราคาผลผลิตทางการเกษตรนั้น ทางรัฐบาลได้ให้ทางกองทัพมาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้จัดทำนโยบายที่มุ่งหวังเอื้อประโยชน์ให้แก่ประชาชนเป็นหลัก มากกว่าทุนระดับกลาง

และสำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ฝากดูแลจัดการปัญหาเรื่องของไทม์แชริ่ง เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมากับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกรณีการตั้งโต๊ะขายห้องพักตามพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมักจะเกิดปัญหาไม่มีห้องพักให้แก่นักท่องเที่ยว ส่วนกรณีปัญหาการบริการรถโดยสารทั้งป้ายเขียวและแท็กซี่ หากต้องการให้ทางทหารเข้ามาช่วยในเรื่องการดูแล หรือพูดคุยกับทางผู้ประกอบการก็พร้อมที่จะเข้ามาดูแล กรณีหากพบมีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ให้เชิญมาพูดคุย และทางฝ่ายทหารก็พร้อมที่จะร่วมพูดคุยด้วย เน้นการพูดคุยในเชิงบวกเป็นหลัก แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการปรามกันไปด้วย

อย่างไรก็ตาม พล.ท.ปราการ ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ทางรองนายกฯ ให้ความสำคัญต่อเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินด้วย โดยขอให้ทั้ง 2 จังหวัดจัดสัปดาห์รณรงค์ความปลอดภัย รวมถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย และควรมีการสื่อสารผ่านทางสื่อต่างๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ และสนองตอบต่อนโยบายของผู้บังคับบัญชาด้วย

“รัฐบาลโดยรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 4 ลงมาติดตามผลการปฏิบัติงานในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนในเมืองหลักของฝั่งอันดามัน คือ จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ เพื่อรับทราบผลการปฏิบัติงานที่มีความก้าวหน้าในเรื่องใดบ้าง รวมทั้งเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน และนักท่องเที่ยวว่าขณะนี้นักท่องเที่ยวมีความห่วงใยมีความเดือดร้อนเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งตนก็ได้รับการรายงานจากทั้ง 2 จังหวัด พบว่าปัญหาทุกอย่างกำลังได้รับการแก้ไขไปได้ด้วยดี และตนได้เรียนว่าในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 มีความพร้อมที่จะส่งกำลังลงมาช่วย ข้าราชการพลเรือนทุกส่วนเพื่อให้งานตามหน้าที่ดำเนินการไปได้ หากมีการร้องขอ ซึ่งจะเป็นการส่งกำลังมาช่วยในเชิงของการอบรมให้ความรู้ความเข้าใจ ส่วนกรณีที่เป็นปัญหาเชิงกฎหมาย หรือเชิงนโยบาย พื้นที่สามารถที่จะสะท้อนปัญหาผ่านกองทัพภาคที่ 4 เพื่อรายงานรัฐบาลได้โดยตรง ซึ่งงานหลายอย่างที่ได้รับรายงานในที่ประชุม ถือว่าก้าวหน้าไปด้วยดี” พล.ท.ปราการ กล่าวและว่า

ที่ดำเนินการในตอนนี้จะเน้นในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว เพื่อต้องการให้เกิดการมั่นใจ ธุรกิจท่องเที่ยวของเรากำลังไปได้ดี ถ้าเราสามารถแก้ปัญหาอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจได้ ก็จะทำให้การท่องเที่ยวของเราเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ รวมถึงปัญหาเรื่องทรัพยากรธรรมชาติด้วยที่เราให้ความสำคัญ ส่วนกรณีผู้ที่มีความเคลื่อนไหวสูงในแง่ของธุรกิจท่องเที่ยว เราจะใช้วิธีเชิญมาพบปะพูดคุยทำความเข้าใจเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งฝ่ายผู้ประกอบการ และประชาขน เพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์ด้วย ซึ่งจะใช้การพูดคุยทำความเข้าใจเป็นหลัก

ขณะที่ปัญหาเรื่องของการจัดสรรที่ดินสวนปาล์มที่หมดอายุสัมปทานที่จังหวัดกระบี่ จากการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ให้นโยบายไว้ในเรื่องการที่จะดูแลทั้งผู้ที่เคยได้สัมปทาน และดูแลประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน ปรากฏว่า สถานการณ์ที่ตามมาคือ มีการไหลถ่ายเทประชากรมาที่นี่เป็นจำนวนมาก ก็จะรายงานเรื่องนี้ให้รัฐบาลได้รับทราบเพื่อที่จะกำหนดนโยบายปฏิบัติให้พร้อมๆ กันทั้งพื้นที่ต่อไป พล.ท.ปราการ กล่าวในที่สุด


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น