ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดพิธีการลงนามให้สัตยาบัน เรื่อง ความปลอดภัยคือหัวใจของการท่องเที่ยว เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่โรงแรม รอยัล ภูเก็ต ซิตี้ พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีการลงนามให้สัตยาบัน เรื่อง ความปลอดภัยคือหัวใจของการท่องเที่ยว เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยมี นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ประธานอนุกรรมาธิการด้านการท่องเที่ยว ในคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ประธานอนุกรรมาธิการด้านการท่องเที่ยว กล่าวว่า การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้แก่ประเทศถึง 1.8 แสนล้านล้านบาท ประกอบกับประเทศไทยเรามีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งด้านศิลปะ ศาสนา วัฒนธรรม ความสมบูรณ์ทางธรรมชาติอื่นๆ ซึ่งหากมีการพัฒนาแหล่งต่างๆ ให้ได้มาตรฐานสากล รวมตลอดทั้งปรับปรุงการอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัย และการไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวก็ย่อมจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ประการสำคัญในการดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ในปัจจุบันทางกองบัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ก็ได้มุ่งเน้น แนะนำ และมาสาธิตให้เจ้าของสถานที่พักได้แจ้งชื่อผู้เข้าพักต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อันจะช่วยให้สามารถคุ้มครอง และติดตามดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งผู้ประกอบการก็จะต้องให้ความร่วมมือ และดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด
ดังนั้น คณะอนุกรรมาธิการท่องเที่ยวจึงได้มีแนวคิดที่จะจัดระเบียบ และกำหนดมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร เพื่อสร้างความปลอดภัย และความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว โดยจะใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญระดับนานาชาติ มีชื่อเสียงในด้านความสวยงาม และความเงียบสงบของธรรมชาติ มีชายหาดที่เรียกว่า ไข่มุกแห่งอันดามัน เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย คณะอนุกรรมาธิการจึงได้ประสานความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนจัดพิธีลงนามในบันทึกการให้สัตยาบัน และมีการเสวนาเรื่องความปลอดภัยคือหัวใจของการท่องเที่ยว เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีความเข้าใจในบทบาท และหน้าที่ของตนเอง ทั้งในการปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการดูแลอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน การไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว อันจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเกิดความยั่งยืน และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง ผู้ประกอบการควรมีการรวมกลุ่ม เช่น ตั้งเป็นสมาคม ควบคุมเพื่อดูแลกันเอง หากมีการฝ่าฝืนก็จะมีกฎ และกติกาในการลงโทษกันเอง
พล.ต.ท.บุญเรือง ยังกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ คณะอนุกรรมาธิการได้มีการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานตามมาตรฐานของแต่ละหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางให้การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต ดำเนินไปอย่างมีระบบมีความระเบียบเรียบร้อย มีความสะดวก ปลอดภัย และยั่งยืน ทั้งนี้ ต่อไปจังหวัดที่มีความต้องการจะจัดระเบียบการท่องเที่ยวก็สามารถนำคู่มือดังกล่าวไปเป็นต้นแบบในการดำเนินการจัดระเบียบก็จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดนั้นๆ อย่างยั่งยืนต่อไปได้
ด้าน พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความสำคัญต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศชาติ นำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับ 2 ประมาณกว่า 10% ของ GDP ประเทศ รองจากรายได้จากการส่งออก และมีแนวโน้มว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน โดยรัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไว้ 2.2 ล้านล้านบาท ภายในปี พ.ศ.2558 โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 28 ล้านคน และคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 151 ล้านครั้ง ซึ่งหนึ่งคนก็อาจจะเดินทางหลายครั้ง
จากคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2557 ได้กล่าวถึงการเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิมและแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยเน้นการให้ความรู้ และเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การควบคุมสินค้า และบริการให้มีคุณภาพ ราคาเป็นธรรม ตลอดจนอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ แก่นักท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมาธิการด้านการท่องเที่ยว ได้เล็งเห็นว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความพร้อม มีศักยภาพ และมีขีดความสามารถการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวสูงเป็นอันดับต้นของประเทศ จึงพิจารณาให้จังหวัดภูเก็ต เป็นจังหวัดนำร่องในการดำเนินการโครงการภูเก็ตเมืองสันติสุข Phuket : City of Peace and Happiness ขึ้น โดยให้ความสำคัญในการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้แนวคิดที่ว่า ความปลอดภัย คือ หัวใจของการท่องเที่ยว และจัดระเบียบการท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต และถือเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งที่ทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวได้ให้ความสำคัญต่อแนวนโยบายของรัฐบาลในการคุ้มครองดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งในด้านชีวิต และทรัพย์สิน จึงนำไปสู่การร่วมลงนามให้สัตยาบัน เรื่องความปลอดภัยคือหัวใจของการท่องเที่ยว เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยใช้จังหวัดภูเก็ตเป็นแม่แบบของการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของประเทศ
