xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องลึกปมฆ่านักธุรกิจมาเลย์ (4)...แฉทุนข้ามชาติฮุบอสังหาฯ “ด่านนอก” สีกากีหนุนหลังมาเฟีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

(แฟ้มภาพ)
 
จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถเบนซ์หรูของมิสเตอร์ลี อาฮง เศรษฐีพันล้านชาวมาเลเซียเสียชีวิต ส่วนภรรยาบาดเจ็บเล็กน้อย เหตุเกิดบนถนนกาญจนวนิช บริเวณบ้านคลองปอม ต.พะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เขตรับผิดชอบของ สภ.ทุ่งลุง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา

แนวทางสอบสวนเชื่อว่ามาจากการ ฆ่าล้างหนี้ จำนวน 30 กว่าล้านเหรียณริงกิต โดยเป็นการบงการของมาเฟียชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มมาเฟียข้ามชาติที่เข้ามาสร้างอาณาจักรอิทธิพลในบ้านไทยจังโหลน หรือบ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา มีกลุ่มคนมีสีระดับสูงเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้วยการเป็น “หุ้นลม” ในธุรกิจโรงแรม สถานบันเทิง หนุนให้มีการทำผิดกฎหมาย ทั้งการค้ามนุษย์ และยาเสพติด ตามที่ “MGR Online ภาคใต้” ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 ซึ่งได้สั่งการให้ตั้งชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มคนร้าย ซึ่งเชื่อว่าผู้รับงานในการฆ่าเศรษฐีพันล้านชาวมาเลเซียครั้งนี้เป็นคน “มีสี” ได้เปิดเผยว่า การสืบสวนมีความคืบหน้าพอสมควร แต่เปิดเผยไม่ได้เพราะอาจจะทำให้ผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ไหวตัว

ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการประกบตัวผู้ต้องสงสัยในพื้นที่ และแกะรอยรถยนต์เก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด และมิตซูบิชิ มิราจ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยทั้ง 2 คัน ซึ่งหลังเกิดเหตุคนร้ายได้นำไปซุกซ่อนไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามอยู่ เชื่อว่าน่าจะพบรถยนต์ทั้ง 2 คันในเร็วๆ นี้

ส่วนในประเด็นของการถูกสั่งฆ่า จากการสอบสวนภรรยาผู้ตาย และจากการสืบสวนด้านอื่นๆ ยังให้น้ำหนักของการ “เบี้ยวหนี้” จากนายทุนชาวมาเลเซียด้วยกัน ที่ทำธุรกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน เป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องสงสัยรายนี้ ซึ่งขณะนี้ไม่อยู่ในประเทศไทย

ในขณะที่แหล่งข่าวในวงการตำรวจด้วยกันได้ให้ข้อมูลว่า เนื่องจากผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นมาเฟียใหญ่ชาวมาเลเซียที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่ดิน โรงแรม และสถานบันเทิงอื่นๆ นับหมื่นล้านบาท ในบ้านไทยจังโหลน และอื่นๆ ใน จ.สงขลา

“มีแบ็กอัปที่เป็นคนมีสีระดับนายพล นายพันจำนวนหนึ่ง ได้พยายามใช้อิทธิพลในการเบี่ยงประเด็นการเสียชีวิตของมิสเตอร์ลี ฮง ว่า ไม่ได้มาจากความขัดแย้งกับ เฮีย ก.ซึ่งเป็น มาเฟียใหญ่ชาวมาเลเซียด้วยกัน จากการที่เฮีย ก.จ่ายเช็คเด้งเพื่อเบี้ยวเงินที่เกิดจากการซื้อขายที่ดินในบ้านไทยจังโหลน หรือบ้านด่านนอก ต.สำนักขาม อ.สะเดา โดยจะมีการตั้งประเด็นการสังหารให้เป็นเรื่องชู้สาว และเรื่องความขัดแย้งกับนักธุรกิจชาวมาเลเซีย และชาวไทยในพื้นที่บ้านไทยจังโหลน เพื่อปกป้องเฮีย ก. มาเฟียชาวมาเลเซียให้พ้นจากการถูกตั้งข้อสงสัย”

ในขณะที่แหล่งข่าวในพื้นที่ได้ให้ข้อมูลในเชิงลึกว่า ก่อนที่มิสเตอร์ลี อาฮง จะถูกสังหารโหดประมาณ 1 เดือน มิสเตอร์ลี ได้กลับไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อไปทวงถามหนี้สินกับ เฮีย ก. และปรากฏว่า ถูกสมุนของมาเฟียคนดังกล่าวรุมซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ ทำให้มิสเตอร์ลี ต้องกลับมายังบ้านพักที่บ้านไทยจังโหลน ต.สำนักขาม เพื่อความปลอดภัย

ในขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งจากหุ้นส่วนของหมู่บ้านประกายทอง บ้านท่าท้อน ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ว่า ข้อมูลที่ “MGR Online ภาคใต้” ได้นำเสนอว่า มิสเตอร์ลี ผู้เสียชีวิตได้เข้ามาซื้อโครงการหมู่บ้านในวงเงิน 500 ล้านบาทนั้น เป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงเพราะข้อเท็จจริงคือ มิสเตอร์ลี ได้เข้ามาซื้อบ้านเดี่ยวของโครงการเพื่อเป็นที่อยู่ และก่อนเกิดเหตุ มิสเตอร์ลี ก็ไม่ได้เข้ามาอาศัยที่หมู่บ้านแล้ว โดยมิสเตอร์ลี ได้ไปซื้อบ้านในโครงการหรูแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จึงอาจจะสร้างความสับสนให้แก่ผู้อ่าน และกับลูกค้าของโครงการหมู่บ้านประกายทอง จึงขอให้ได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงตามนี้ด้วย

แหล่งข่าวในพื้นที่บ้านไทยจังโหลน ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เปิดเผยต่อไปว่า สถานการณ์การทำธุรกิจทุกอย่างในบ้านไทยจังโหลน หรือบ้านด่านนอก ต.สำนักขาม วันนี้อยู่ในจุดที่วิกฤตสุดขีด เพราะธุรกิจการค้าหลักๆ ล้วนตกอยู่ในมือของพ่อค้า และมาเฟียชาวมาเลเซียเกือบทั้งหมด แม้แต่ร้านอาหารก็เป็นของชาวมาเลเซีย พนักงานในร้านก็เป็นคนมาเลเซีย กินข้าวเสร็จ หากขอบิลค่าอาหารก็เป็นภาษจีน แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง แรงงาน และตำรวจไม่เคยให้ความสนใจในการตรวจสอบ

“โดยเฉพาะตำรวจ ตกอยู่ภายในอิทธิพลทางการเงินของพ่อค้า และมาเฟียชาวมาเลเซียแทบทั้งสิ้น จึงอยากให้ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.9 และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ทำการตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาให้ด้วย”
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น