ภูเก็ตคุมเข้ม! แหล่งเที่ยว คนต่างชาติหนาแน่น หวั่น “ไอเอส” ฝังตัวก่อเหตุร้าย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - หน่วยงานด้านความมั่นคงจังหวัดภูเก็ตคุมเข้มแหล่งท่องเที่ยว แหล่งชาวต่างชาติทั้งรัสเซียและฝรั่งเศสอยู่หนาแน่น ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบตามชุมชน ที่พัก หลังมีกระแสข่าวสมาชิกกลุ่ม “ไอเอส” 2 คนเข้ามาฝังตัวในภูเก็ตหวังก่อวินาศกรรมให้คู่กรณีเสียหาย ผู้ว่าฯ ฝากประชาชนชาวภูเก็ตอย่าตื่นตระหนก ช่วยสอดส่องดูแลบุคคลต้องสงสัย

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (4 ธ.ค.) นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานด้านความมั่นคงจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย นายโชคดี อมรวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต น.อ.สถาพร วาจรัตน์ รอง ผอ.กอ.รมน.ภูเก็ต ตัวแทนทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือกรณีมีกระแสข่าวว่าหน่วยต่อต้านข่าวกรองของรัสเซียประสานแจ้งเตือนว่า มีชาวซีเรีย 10 รายที่เกี่ยวข้องกับรัฐอิสลาม (ไอเอส) ได้เดินทางเข้าไทยแล้วระหว่างวันที่ 15-31 ตุลาคม และได้แยกเดินทางไปพัทยา 4 ราย ภูเก็ต 2 ราย กรุงเทพฯ 2 ราย และอีก 2 รายไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด และยังไม่ทราบชื่อ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก่อเหตุร้ายต่อผลประโยชน์ของรัสเซีย และกลุ่มพันธมิตรในไทย บางประเทศออกมาเตือนหรือระบุว่ามีสมาชิกไอเอสเดินทางเข้ามากบดานหรือฝังตัวอยู่ในหลายๆ จังหวัดของประเทศไทย โดยหนึ่งในนั้นเป็นจังหวัดภูเก็ต

นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า เป็นข่าวที่มีการส่งต่อกันมา เป็นหน้าที่ของหน่วยงานด้านความมั่นคงในการตรวจสอบและดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนที่มีข่าวว่ามีชาวซีเรียเข้ามาอาศัยอยู่ในภูเก็ตจำนวน 2 คน ก็เป็นหน้าที่ของหน่วยงานความมั่นคงที่จะตรวจสอบว่าไปตามกระบวนการ ซึ่งในส่วนของการดูแลความปลอดภัยเมืองท่องเที่ยวนั้น รัฐบาลได้สั่งการมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว และทุกหน่วยในพื้นที่ด้านความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ทั้งทหารเรือและทหารบก รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ในพื้นที่มีการประสานงานด้านการข่าว และมีการประชุมเกี่ยวกับหัวข้อข่าวสาร การประเมินสถานการณ์ รวมถึงการบูรณาการร่วมกันทั้ง 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองภูเก็ต อ.กะทู้ และ อ.ถลาง ซึ่งมีแผนการดำเนินการของหน่วยงานความมั่นคงอยู่แล้ว แต่ความสำคัญอยู่ที่พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนที่จะต้องร่วมไม้ร่วมมือกันดูแล เพราะหากเกิดเหตุการณ์ที่เราไม่พึงประสงค์ย่อมส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย ซึ่งในส่วนของภาครัฐก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดบนพื้นฐานของความไม่ประมาทและบนพื้นฐานของความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ตลอดจนนักท่องเที่ยวด้วย

ในส่วนของมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนั้น นายจำเริญกล่าวว่า ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในระดับมาตรฐานที่ต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ไม่ใช่มาเพิ่มเมื่อมีเหตุหรือมีข่าวแต่ละครั้ง แต่วันนี้จะเพิ่มความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการสอดส่องดูแลสิ่งผิดปกติในชุมชนของตนเอง ในขณะที่จังหวัดเองก็ได้พยายามที่จะเพิ่มในเรื่องการติดตั้งกล้อง CCTV การสื่อสาร แผนบูรณาการ ในระดับพื้นที่ให้กระชับและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมาประเมินสถานการณ์เพื่อหาจุดบกพร่อง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ต้องไม่ลืมว่าเราเป็นเมืองท่องเที่ยว ฉะนั้นในการดำเนินการต่างๆ นั้นจะต้องไม่ตื่นตระหนก แต่ต้องตระหนัก

“ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า อย่าตระหนก แต่มาช่วยกันตระหนัก เพราะเรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวเราอยู่แล้วในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องอาชญากรข้ามชาติ หรือการก่อการร้าย ทุกเมืองมีผลกระทบทั้งหมดทั่วโลก ภูเก็ตเราไม่ใช่คู่กรณี เราเป็นเมืองท่องเที่ยวรับนักท่องเที่ยวทุกชาติ ทุกศาสนา และเราประสงค์ให้เป็นเมืองแห่งสันติสุข สันติภาพ จึงขอเรียกร้องให้ทุกคนมาร่วมมือกันทำให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่ทุกคนมาแล้วมีความสุข” นายจำเริญกล่าว

นายจำเริญกล่าวถึงการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงว่า ได้มีการเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงที่เป็นคู่กรณีด้วยการเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้นในทุกพื้นที่ ทุกหาด ทุกแหล่งท่องเที่ยว สำคัญต้องสร้างความร่วมมือในระดับพื้นที่ กระชับการทำงานให้เข้มแข็งขึ้น และเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ผู้ให้บริการนักท่องเที่ยว พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชนที่จะต้องให้ข้อมูลข่าวสาร เพราะนี่คือบ้านของเรา เป็นหม้อข้าวใบใหญ่ของเรา และเราจะดูแลนักท่องเที่ยวดุจญาติมิตรที่มาท่องเที่ยวภูเก็ต

ด้าน พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัย หลังจากมีข่าวว่ามีชาวซีเรีย 2 คนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส มาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ว่า ได้มีการเพิ่มความเข้มงวดในการออกตรวจตราพื้นที่หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของจังหวัด ไม่เฉพาะการดูแลด้านความมั่นคงเท่านั้นแต่งานด้านอื่นๆ เช่น การค้ามนุษย์ การแพร่ระบาดของยาเสพติด อาชญากรรมต่างๆ เป็นต้น ถือว่าสามารถปฏิบัติการไปได้พร้อมๆ กัน โดยอาจจำแนกการนำกำลังออกตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายต่างๆ เช่น แหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเทียวอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคู่กรณีกับเหตุการณ์ต่างๆ สถานประกอบการที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ดำเนินกิจการของกลุ่มประเทศที่เป็นคู่กรณีกับเหตุการณ์ เช่น ฝรั่งเศส รัสเซีย เป็นต้น

“โดยในขณะนี้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดภูเก็ต โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีการประสานข้อมูลต่างๆ กับกงสุลที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะกงสุลประเทศคู่กรณี เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกัน และมีการให้ข้อมูลแก่พลเมืองของประเทศ เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์หรือคำเตือนจากนานาประเทศจนกลายเป็นความหวาดกลัว ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่จะก่อให้เกิดหรือบ่งบอกว่าจังหวัดภูเก็ตเป็นเป้าหมายในการก่อวินาศกรรม” พล.ต.ต.ธีระพลกล่าว

พล.ต.ต.ธีระพลกล่าวต่ออีกว่า กรณีที่มีการระบุจำนวนของบุคคลต้องสงสัยที่คาดว่าเดินทางเข้ามาในพื้นที่ จ.ภูเก็ตนั้น ได้มีการติดตามและเฝ้าตรวจสอบเสมอมา ซึ่งภาพรวมของการแจ้งเตือนยังกว้างมาก โดยได้มีการประสานกับด่านตรวจคนเข้าเมือง และมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมาตลอด ตั้งแต่เหตุลอบวางระเบิดที่ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ขณะที่กลุ่มสัญชาติเป้าหมายที่อาจถูกมองว่าเป็นคนซีเรียจะเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ต่างๆ นั้นคงไม่แสดงตนว่าเป็นชาวซีเรีย และมีองค์ประกอบด้วยปัจจัยหลายอย่าง จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนกกับคำเตือนของนานาชาติ แต่ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาคอยสอดส่องบุคคลที่เชื่อว่ามาจากประเทศในกลุ่มเสี่ยงที่เคยร่วมก่อเหตุในต่างประเทศ และแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเฝ้าระวังและตรวจสอบ

นอกจากนั้นจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบตามแหล่งอพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม โรงแรมขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หรือชุมชนต่างๆ เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล 2 คนที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต และอยากฝากถึงประชาชนชาวภูเก็ตหรือนักท่องเที่ยวพบสิ่งของหรือกล่องที่นำมาวางหรือกระเป๋าที่วางไว้ หรือบุคคลที่มีพิรุธสามารถโทรศัพท์แจ้ง 191 จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบได้ทันที