ผบ.ตร.สั่งสอบกรณีเอกสาร ตร.สันติบาล อ้างถึงหน่วยรัสเซียแจ้งเตือน 10 ไอเอสเข้าไทยหลุดออกสื่อ หวั่นสร้างความตื่นตระหนก ยืนยันเป็นเอกสารจริง แต่ไม่มีกลุ่มไอเอสในไทย ชาวซีเรียเข้ามาเป็นเรื่องปกติ มาท่องเที่ยว
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึง กรณีมีเอกสารของกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) ลับมาก โดย พล.ต.ต.สารวุฒิ การพาณิช รอง ผบช.ส.ปรท.ผบช.ส.แจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยว่าหน่วยข่าวประเทศรัสเซียแจ้งเตือนพบชาวซีเรีย 10 คนซึ่งเกี่ยวข้องกลุ่มไอเอสเดินทางเข้าประเทศไทย โดยให้เฝ้าระวังเป้าหมายเป็นชาวรัสเซียและพันธมิตรในไทยว่า เอกสารที่ออกมาและที่ทุกคนสงสัย ตนสรุปเลยว่าเป็นของจริง ซึ่งเป็นขั้นตอนทางธุรการที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว หลังจากที่ได้รับการเตือนจากหน่วยที่เกี่ยวข้อง เราก็ได้มีการเตือนเฝ้าระวังภายใน ในส่วนที่เอกสารหลุดไป ตนได้มอบให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ตรวจสอบในส่วนของขั้นตอนและข้อเท็จจริงว่าเอกสารมีการหลุดรอดมาได้อย่างไร หากมีการตรวจสอบพบว่ามีการหลุดมาจากบุคคลใด จะมีการเรียกมาคุยกันว่าเอกสารหลุดออกมาอย่างไร มีเจตนาแบบไหน เพราะเป็นหนังสือลับ อาจทำให้พี่น้องประชาชนตื่นตระหนก
“เรื่องนี้มองได้ 2 มิติ เกรงว่าประชาชนจะตื่นตระหนก แต่จริงๆ แล้วเป็นงานปกติเป็นงานรูทีนของเราอยู่แล้ว ชาวซีเรียเขามาเที่ยวอยู่แล้ว เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเข้ามาประมาณ 200 คนนักท่องเที่ยว ขณะนี้ทยอยกลับแล้วเหลืออีกไม่เกิน 20 คน ซึ่งใน 20 คนพอวีซ่าหมดยังไงก็ต้องกลับ เพราะวีซ่าบังคับอยู่แล้ว ถ้าไม่ออกก็ถือว่าอยู่โดยผิดกฎหมาย แต่เชื่อว่าถึงเวลาคงออกหมด” พล.ต.อ.จักรทิพย์ระบุ
เมื่อถามว่ามีข้อมูลของชาวซีเรีย 200 คนที่เข้ามาหรือไม่ ว่าที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนก็อยู่กับการข่าวมาโดยตลอด พูดมาโดยตลอดว่ากลุ่มไอเอสบ้านเราไม่มี ถามต่อว่าอาจจะบอกบ้านเราเป็นเป้าหมายใหม่ และอ่อนไหวเปราะบาง พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนก็อยู่กับการข่าวมาตลอด ต้องเข้าใจว่าเราไม่ได้เป็นประเทศคู่ขัดแย้ง เพราะฉะนั้นในเรื่องของการข่าวเราก็ต้องมีไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีการตื่นตัวในการทำงาน
เมื่อถามว่าจากการข่าวที่ออกมาเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังหรือมีมาตรการรองรับอะไรบ้าง ผบ.ตร.กล่าวว่า มีอยู่แล้ว ส่วนจะรองรับอย่างไรนั้นตนบอกไม่ได้ ฝ่ายข่าวเราทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสันติบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ถามต่อว่าในเอกสารที่ระบุรายละเอียดว่ามีชาวซีเรีย 10 คน แยกไปภูเก็ต พัทยา กทม. และหายไป 2 คน ในส่วนนี้จะเคลียร์อย่างไรในข่าวที่หลุดไป พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า อย่างที่ตนได้บอกว่าไปใน 10 คนนี้อาจจะอยู่ใน 200 คน ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องเลยก็ได้ ข่าวก็คือข่าว แต่เราก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลยไม่สนใจในเรื่องการข่าว
เมื่อถามว่าในหนังสือยังระบุอีกว่าทางการรัสเซียสั่งให้ทางการไทยเฝ้าระวัง ในส่วนนี้ทางรัสเซียได้มีการประสานกับทางการไทยจริงหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ในส่วนนี้ตนบอกไม่ได้ ถามต่อว่าสามารถพูดได้หรือไม่ว่าจากการข่าวว่าไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มไอเอส พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าทำงานการข่าวมาพอสมควร ไม่เห็นมีปรากฏ ถามต่อว่ามีมาตรการอย่างไรกับข่าวที่ออกไปทำให้ประชาชนทั้งไทยและต่างชาติเกิดความตื่นตระหนก ผบ.ตร.กล่าวว่า เราพยายามอธิบาย ส่วนจริงๆแล้วอย่างที่เคยบอกว่าเราไม่ใช่ประเทศคู่ขัดแย้ง สิ่งพวกนี้ต้องเป็นเรื่องของการข่าวจริงๆ ไม่ใช่ว่าไปคิดเอาเอง มันไม่ใช่
เมื่อถามว่าสำหรับพื้นที่ที่มีชาวรัสเซียอาศัยอยู่ โดยเฉพาะพัทยา ภูเก็ต ส่วนนี้ต้องเพิ่มมาตรการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ตนได้มีการสั่งการ พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ให้เพิ่มความเข้มตั้งแต่เดือน พ.ย. และเดือน ธ.ค. เพราะมีกิจกรรมสำคัญตลอดทั้งเดือน หลังจากกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ (Bike for Dad) ก็จะมีพระราชพิธีพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก รวมถึงเทศกาลคริสต์มาส และปีใหม่
เมื่อถามว่าเรามีข้อมูลว่ามีชาวซีเรีย 20 คนที่น่าจะยังอยู่ในประเทศ จากข่าวที่เตือนและชี้เป้ามาขนาดนี้เราได้มีการเช็คและได้มีการเชิญมาตรวจสอบหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนบอกไม่ได้ ถามต่อว่าระบุตัวบุคคล 10 คนในหนังสือคำสั่งเลยหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า บอกไม่ได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานดีกว่า เราเป็นคนดูแลพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว ตนจะทำให้ดีที่สุดอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าฝ่ายความมั่นคงของประเทศรัสเซียมีการประสานส่งเจ้าหน้าที่มาหรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องประเทศรัสเซีย ถามต่อว่าประเทศอื่นมีหรือไม่ถ้าไม่ใช่รัสเซีย พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า มี แต่ไม่บอก เรื่องอย่างนี้ไม่ควรจะพูดซี้ซั้วไปเรื่อย เรื่องของความมั่นคง
เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีการสั่งการอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังและมีการเตือนปกติอยู่แล้ว เพราะท่านเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
ถามต่อว่าเตือนหลังเกิดเหตุที่ประเทศฝรั่งเศลหรือเตือนเฉพาะที่มีข่าวของกลุ่มไอเอส พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า มีการเตือนมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้มีมาตั้งนานแล้ว ถามต่อว่าตอนนี้มีทูตประเทศไหนติดต่อขอเข้าพบกับทางตร.บ้าง ผบ.ตร.กล่าวว่า ก็มีมาเข้าพบเรื่อยๆ ช่วงที่ตนเข้ารับตำแหน่งใหม่ ก็มีเข้ามาพูดคุยกัน หลังจากนั้นก็มีการคุยกันในหลายๆ เรื่อง บางทีตนก็ไปที่สถานฑูต