กระบี่ - เกษตรจังหวัดกระบี่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายนาข้าวของกลุ่มชาวนา ต.คลองประสงค์ พร้อมเตรียมจัดซื้ออวนดักนกแก้ปัญหานกบุกกินเมล็ดข้าวลีบเสียหายทั้งแปลง ระบุเหตุหนู นก ชุกเนื่องจากเป็นแปลงนาข้าวที่ให้ผลผลิตก่อนแปลงอื่น พร้อมงดประกาศพื้นที่ภัยพิบัติเนื่องจากคุมสถานการณ์ได้
จากกรณีที่มีกองทัพหนู-นก จำนวนหลายร้อยตัวบุกเข้ากัดต้นข้าวในแปลงนาของเกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ จนได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600,000 บาท โดยเฉพาะข้าวที่กำลังเริ่มออกรวง แม้ว่าเกษตรกรจะพยายามใช้วิธีการต่างๆ เพื่อกำจัดหนูแต่ก็ยังไม่เป็นผล และยังได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า เวลา 10.00 น. วันนี้ (2 ธ.ค.) นายประคอง อุสาห์มัน รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดกระบี่ นายชำนาญ นุ่นดำ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกระบี่ ลงพื้นที่ ม.1 และ ม.2 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อสำรวจความเสียหายนาข้าวของเกษตรกรกลุ่มชาวนา และกลุ่มทำนา 1 ไร่ 1 แสน ต.คลองประสงค์ หลังได้รับแจ้งว่าได้มีทั้งหนูและนกจำนวนมากบุกกัดกินต้นข้าวและรวงข้าวที่กำลังให้ผลผลิต จนเสียหายย่อยยับไม่ต่ำกว่า 300 ไร่
ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบความเสียหายของนาข้าว นายประคอง อุสาห์มัน รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบความเสียหายนาข้าว ของกลุ่มชาวนาทั้ง 2 กลุ่มในเบื้องต้น พบว่ายังคงมีหนูออกมาอาละวาดกัดกินต้นข้าวของชาวนาอย่างต่อเนื่อง ลักษณะความของเสียหายมีความเหมือนกัน ก็คือเกิดจากหนูหริ่ง และหนูท้องขาว ที่คอยกัดกินต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงให้ผลผลิตจนได้รับเสียหาย ในเบื้องต้นทางกลุ่มชาวนาได้แก้ปัญหาด้วยการใช้กับดักและตัดต้นข้าวที่ถูกหนูกัดทิ้งเพื่อให้ต้นข้าวแตกกองอกออกมาใหม่ เป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้น
ซึ่งนอกจากหนูที่เป็นศัตรูสำคัญแล้วก็ยังมีนกลาที่คอยกัดกินเมล็ดข้าวที่กำลังจะสุก จนทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งแปลง การช่วยเหลือในเบื้องต้น ก็ได้แนะนำให้ชาวนาใช้วิธีแบบโบราณ และจะจัดหาอุปกรณ์อวนดักนก ซึ่งน่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ทำได้ในตอนนี้ ให้ชาวนาเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นไปก่อน ส่วนการใช้สารเคมีกำจัดนั้นทางกลุ่มฯ ไม่ทำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากชาวนาบ้านเกาะกลางใช้วิธีปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ ทำให้เป็นที่รู้จักทั่วไปถึงรสชาติและความอร่อยของข้าว โดยเฉพาะข้าวสังข์หยด ที่ปลูกในพื้นที่บ้านเกาะกลาง ต.คลองประสงค์ มีราคาสูงกิโลกรัมละประมาณ 100 บาท
สำหรับการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้น คาดว่าคงไม่ต้องประกาศ เนื่องจากปัญหาทั้งสองอย่างยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ และที่สำคัญแปลงนาที่ถูกทั้งหนูและนกกัดกินผลผลิตนั้นเป็นแปลงที่ให้ผลผลิตก่อนแปลงอื่น จึงทำให้ทั้งหนูและนกรวมตัวกันไปที่เดียวกันจึงสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง สำหรับในระยะยาวในปีหน้าก็ต้องมีการวางแผนก่อนที่จะมีการปลูกข้าว ซึ่งจะได้มีการพูดคุยกับชาวนาในโอกาสต่อไป
จากกรณีที่มีกองทัพหนู-นก จำนวนหลายร้อยตัวบุกเข้ากัดต้นข้าวในแปลงนาของเกษตรกรในพื้นที่หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 2 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ จนได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600,000 บาท โดยเฉพาะข้าวที่กำลังเริ่มออกรวง แม้ว่าเกษตรกรจะพยายามใช้วิธีการต่างๆ เพื่อกำจัดหนูแต่ก็ยังไม่เป็นผล และยังได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ความคืบหน้า เวลา 10.00 น. วันนี้ (2 ธ.ค.) นายประคอง อุสาห์มัน รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดกระบี่ นายชำนาญ นุ่นดำ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดกระบี่ ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองกระบี่ ลงพื้นที่ ม.1 และ ม.2 ต.คลองประสงค์ อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อสำรวจความเสียหายนาข้าวของเกษตรกรกลุ่มชาวนา และกลุ่มทำนา 1 ไร่ 1 แสน ต.คลองประสงค์ หลังได้รับแจ้งว่าได้มีทั้งหนูและนกจำนวนมากบุกกัดกินต้นข้าวและรวงข้าวที่กำลังให้ผลผลิต จนเสียหายย่อยยับไม่ต่ำกว่า 300 ไร่
ซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบความเสียหายของนาข้าว นายประคอง อุสาห์มัน รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบความเสียหายนาข้าว ของกลุ่มชาวนาทั้ง 2 กลุ่มในเบื้องต้น พบว่ายังคงมีหนูออกมาอาละวาดกัดกินต้นข้าวของชาวนาอย่างต่อเนื่อง ลักษณะความของเสียหายมีความเหมือนกัน ก็คือเกิดจากหนูหริ่ง และหนูท้องขาว ที่คอยกัดกินต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องออกรวงให้ผลผลิตจนได้รับเสียหาย ในเบื้องต้นทางกลุ่มชาวนาได้แก้ปัญหาด้วยการใช้กับดักและตัดต้นข้าวที่ถูกหนูกัดทิ้งเพื่อให้ต้นข้าวแตกกองอกออกมาใหม่ เป็นการแก้ปัญหาในเบื้องต้น
ซึ่งนอกจากหนูที่เป็นศัตรูสำคัญแล้วก็ยังมีนกลาที่คอยกัดกินเมล็ดข้าวที่กำลังจะสุก จนทำให้เมล็ดข้าวลีบทั้งแปลง การช่วยเหลือในเบื้องต้น ก็ได้แนะนำให้ชาวนาใช้วิธีแบบโบราณ และจะจัดหาอุปกรณ์อวนดักนก ซึ่งน่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดที่ทำได้ในตอนนี้ ให้ชาวนาเพื่อแก้ปัญหาในเบื้องต้นไปก่อน ส่วนการใช้สารเคมีกำจัดนั้นทางกลุ่มฯ ไม่ทำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากชาวนาบ้านเกาะกลางใช้วิธีปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ ปลอดสารพิษ ทำให้เป็นที่รู้จักทั่วไปถึงรสชาติและความอร่อยของข้าว โดยเฉพาะข้าวสังข์หยด ที่ปลูกในพื้นที่บ้านเกาะกลาง ต.คลองประสงค์ มีราคาสูงกิโลกรัมละประมาณ 100 บาท
สำหรับการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัตินั้น คาดว่าคงไม่ต้องประกาศ เนื่องจากปัญหาทั้งสองอย่างยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ และที่สำคัญแปลงนาที่ถูกทั้งหนูและนกกัดกินผลผลิตนั้นเป็นแปลงที่ให้ผลผลิตก่อนแปลงอื่น จึงทำให้ทั้งหนูและนกรวมตัวกันไปที่เดียวกันจึงสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง สำหรับในระยะยาวในปีหน้าก็ต้องมีการวางแผนก่อนที่จะมีการปลูกข้าว ซึ่งจะได้มีการพูดคุยกับชาวนาในโอกาสต่อไป
