นครศรีธรรมราช - “โจม” สาวประเภทสองเมืองคอนเข้าแจ้งความกลับเสี่ยเต็นท์รถมือสอง “เดอะวัน” ระบุถูกกล่าวหาลวงโอนเงินค่ารักษาพยาบาล “อั้ม พัชราภา” ดาราสาวคนดัง! ยันพร้อมสู้คดีถึงที่สุด
จากกรณีที่นายปรีชา ชินวานิช อายุ 50 ปี และ น.ส.ชญาดา ชินวานิช อายุ 51 ปี สองพี่น้องเจ้าของเต็นท์รถมือสองเดอะวัน ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายพัชรวรรธน์ หรือโจม คำแหง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่103/55ม.5 ต.ปากพูน อ.เมือง นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นเจ้าร้านเสื้อผ้าพัชราภา กรุ๊ป บายพัชรวรรธน์ และยังเป็นเซเลบคนดังของ จ.นครศรีธรรมราช
โดยระบุว่านายพัชรวรรธน์ได้มาขอยืมเงินกว่า 8 ล้านบาทเพื่อนำไปใช้รักษาตัวดาราสาวชื่อดัง “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก โดยผู้เสียหายได้โอนเงินไปให้กว่า 10 ครั้งเป็นเงินกว่า 8 ล้านบาท และทางนายพัชรวรรธน์บอกว่าจะคืนให้ภายในเดือนพฤศจิกายน แต่เมื่อถึงเวลาไม่ได้คืนเงิน แต่เมื่อสอบถามไปยังอั้ม พัชราภา ก็ระบุว่าไม่ได้ป่วย และไม่ได้ให้นายพัชรวรรธน์ไปยืมเงินแต่อย่างใดและไม่ได้ติดต่อกับนายพัชรวรรธน์มานานแล้วนั้น
ในเรื่องนี้ล่าสุด วันนี้ (1 ธ.ค.) นายพัชรวรรธน์ คำแหง พร้อมด้วยนายภูมิกิติ ทองอร่าม ทนายความได้เดินทางมายัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมี พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งโดยให้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อที่จะตรวจสอบกับทางกองปราบปรามว่าคู่กรณีได้มีการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีหรือไม่ อย่างไร หรือเพียงลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
นายภูมิกิติ ทองอร่าม ทนายความของนายพัชรวรรธน์ระบุว่า นายพัชรวรรธน์มาแจ้งความกลับคู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสียชื่อเสียง โดยไม่ได้เป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ โดยโจมพร้อมที่จะสู้ในทุกกรณี แต่จะไม่ขอพูดรายละเอียดมากไปกว่านี้
ขณะที่ นายพัชรวรรธน์ หรือโจม กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาได้ส่งผลกระทบต่อตัวเองและครอบครัวมาก คนในสังคมที่ไม่ทราบความจริง มีการด่าทออย่างเสียหายทำให้ตนต้องอยู่อย่างลำบากในสังคม และวันนี้ที่ได้ตัดสินใจมาดำเนินการปกป้องความเสียหายของตัวเอง และพร้อมที่จะสู้ในทุกกรณี เรื่องทั้งหมดไม่ได้เป็นจริงตามที่ถูกกล่าวหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้มีการติดต่อกับอั้ม พัชราภา บ้างหรือไม่ นายพัชรวรรน์บอกว่า ไม่อยากจะเอ่ยถึงบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะ แต่จะสู้ในด้านคดีกับผู้กล่าวหา และยอมรับว่าโดยส่วนตัวรู้จักกับสองพี่น้องนักธุรกิจเต็นท์รถ