xs
xsm
sm
md
lg

คนรักในหลวงกระบี่ ยื่นหนังสือประท้วงทูตสหรัฐฯ พาดพิงสถาบัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กระบี่ - คนรักในหลวงกระบี่ ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ ประท้วงทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กรณีวิพากษ์วิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ม.112 พาดพิงสถาบันกษัตริย์ไทย จี้กระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบและปกป้องศักดิ์ศรีประเทศ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ชมรมคนรักในหลวงจังหวัดกระบี่ และสมาชิกฯ พร้อมใจกันใส่เสื้อสีชมพู ผูกผ้าพันคอสีเหลือง นำโดยนายไมตรี บุญยัง ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดกระบี่ เข้ายื่นหนังสือแถลงการณ์และหนังสือประท้วงต่อนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ถึงนายนายกลิน ทาวน์เซนด์ เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนในการปกป้องสถาบันและแสดงความไม่พอใจ รวมทั้งประท้วงกรณีที่นายกลินแสดงความคิดเห็นวิจารณ์เกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 ของไทย ซึ่งเป็นการพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์

นายไมตรีกล่าวว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2558 นายกลินได้กล่าวในเวทีเสวนาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ มีข้อความที่วิจารณ์กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย ซึ่งมีข้อความที่สำคัญว่า ป.อาญา ม. 112 เป็นกฎหมายที่ขัดขวางเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติไม่ควรถูกจำคุก และศาลไทยยังได้พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยด้วยความรุนแรงยาวนานเกินไป โดยนายกลินกล่าวด้วยว่าสหรัฐฯ จะให้การสนับสนุนบุคคลหรือองค์กรอิสระที่มีศักยภาพ ค้นคว้า และรายงานในประเด็นกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย โดยไม่ต้องเกรงกลัวอันตรายใดๆ

ทั้งนี้ นายกลินเป็นเอกอัครราชทูตฯ การออกมากล่าวในที่สาธารณะ วิจารณ์กฎหมายสำคัญของไทยในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอยู่แล้ว ยิ่งกว่านั้นการกล่าวในลักษณะยุยงให้บุคคลอื่นๆ กระด้างกระเดื่องต่อกฎหมายฉบับนี้ ย่อมถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ผิดมารยาททางการทูต ซึ่งสหรัฐฯ เองก็มีกฎหมายคุ้มครองประธานาธิบดีเช่นกัน เมื่อ 2553 นายสเปนเซอร์ ชาวเมืองหลุยส์วิลส์ มลรัฐเคนทักกี ได้ถูกศาลตัดสินจำคุกนาน ถึง 33 เดือน จากการกระทำในการเขียนบทกวีพาดพิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังนั้นก่อนที่จะก้าวก่ายประเทศไทย นายกลินควรที่จะได้ดูกฎหมายของประเทศตนเองเสียก่อนว่าขัดขวางเสรีภาพ และมีการลงโทษมากเกินไปหรือไม่

ชมรมฯ จึงขอเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศของไทยตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาในเรื่องนี้ รวมทั้งดำเนินการตามวิถีทางการทูต เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และอธิปไตยของประเทศไทยอย่างเร่งด่วนต่อไป ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับด้วยความสงบ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น